ไม่รู้ว่าเมื่อคืนกลางดึกพิมเป็นอะไร อยู่ดี ๆ ก็นึกอยากกินตำขนมจีนแซ่บ ๆ แบบใส่ปลาร้าขึ้นมาค่ะ 

เช้าวันนี้ พอตื่นมาพิมก็เลยลองไปรื้อตู้เย็นดูว่า พอจะมีวัตถุดิบอะไรเอามาใส่ตำขนมจีนได้บ้างเน๊าะคะ   ก็ไปเจอกับไส้กรอก หมูยอ ที่ซื้อมาตั้งแต่งาน Macro เมื่อต้นเดือน (แต่ยังไม่ได้แกะห่อ)  มะเขือเปราะ ขนมจีน ที่เหลือจากแกงเขียวหวานเมื่อวานซืน   มะนาว มะเขือเทศสีดากับมะละกอที่อยู่ในตู้เย็นมาเกือบ 1 อาทิตย์    ส่วนมะกอกกับน้ำปลาร้าซึ่งเป็นสิ่งสำคัญในการทำตำขนมจีนของพิม กลับไม่มี  >_<    ก็เลยต้องเดินไปขอซ์้อจากร้านส้มตำที่อยู่ข้าง ๆ บ้านอ่ะค่ะ  ..... แล้วสุดท้าย ท้ายสุด  หลังจากเดินไปเดินมา หยิบโน่นทำนี่อยู่พักใหญ่  พิมก็ได้ตำขนมจีนออกมาหน้าตาอย่างในภาพด้านล่างนี่นะคะ ...... ขอบอกว่าแซ่บมากเลยค่า  เพื่อนๆ  คนไหนอยากรู้ว่าใส่อะไรบ้าง และมีวิธีการทำแบบละเอียด ๆ ยังไง ตามพิมมาได้เลยค่ะ ^_^

:: ส่วนผสมและเครื่องปรุง ::

- มะละกอสับเป็นเส้น 1 ถ้วย
- ขนมจีน 1/2 ถ้วย
- หมูยอ ไส้กรอก หั่นเป็นชิ้นพอคำ รวมกัน 1 ถ้วย
- มะกอก ที่ไว้ใส่ส้มตำ 1 ลูก
- มะเขือเทศสีดา 4 ลูก
- มะเขือเปราะ 2 ลูก
- ใบบัวบก 10 ก้าน
- พริกขี้หนูแห้ง 7 เม็ด
- พริกจินดา (พริกขี้หนูสีแดงเม็ดใหญ่) 7 เม็ด 
- มะนาว 2 ลูก หรือน้ำมะนาว 1 + /2 ช้อนโต๊ะ
- น้ำปลา 3 ช้อนโต๊ะ
- น้ำปลาร้าผสมน้ำ 1 เท่า ต้มสุก 5 ช้อนโต๊ะ
- น้ำตาลปี๊บ 1/2 ช้อนโต๊ะ  

** "ถ้วย" ในความหมายของพิม คือ "ถ้วยตวงมาตรฐาน"  ที่ขายกันในซุปเปอร์มาร์เกต แผนกเครื่องครัวในห้าง หรือร้านขายอุปกรณ์เอรื่องครัวค่ะ   ซึ่งถ้วยตวงของแห้ง เช่น แป้ง น้ำตาล กับถ้วยตวงของเหลว เช่น น้ำ  นม เป็นคนละแบบกันนะคะ  แต่สำหรับเมนูอาหารไทยทั่ว ๆ ไป ถ้าไม่มีถ้วยตวง ก็กะๆ  เอาตามความรู้สึกก็ได้ค่ะ

:: วิธีทำ ::

เริ่มต้น .... สำหรับคนที่ยังไม่ได้สับมะละกอ เราก็มาสับมะละกอกันก่อนนะคะ ก็ให้เราเลือกมะละกอลูกที่เปลือกสีเขียวค่ะ  ลองหยิบจับดูแล้วรู้สึกได้ถึงความแน่นหนัก ผิวมะละกอไม่นิ่ม พอได้มาก็นำล้างซะรอบนึง แล้วนำไปปอกเปลือกออก พอปอกเสร็จก็นำไปล้างอีกรอบให้สะอาด   จากนั้นก็นำมาสับๆ ด้วยมีด ให้เป็นเส้นอย่างในภาพนะคะ หรือถ้าใครสับไม่เป็น จะใช้ที่ขูดมะละกอแบบขูดออกมาเป็นเส้น ๆ ก็ได้ค่ะ  แต่เท่าที่พิมลองดู พิมว่าแบบสับจะอร่อยกว่านะคะ (ไม่รู้อุปทานไปเองรึเปล่านะ ^^) 

เมื่อสับมะละกอเสร็จ ต่อมาก็ให้เราหั่นมะนาวไว้เป็นชิ้น ๆ หรือใครจะบีบไว้เป็นน้ำมะนาวเลยก็ได้ค่ะ  ส่วนไส้กรอก-หมูยอ ก็หั่นไว้เป็นชิ้นพอคำนะคะ   สำหรับไส้กรอก ไม่จำกัดว่าต้องเป็นไส้กรอกอะไร แต่ขอให้เป็นไส้กรอกเนื้อละเอียดก็โอเคล่ะค่ะ   ส่วนมะเขือเทศ มะกอก มะเขือ ก็ฝานไว้เป็นชิ้น ๆ นะคะ  ใบบัวบกก็หั่นไว้เป็นท่อนสั้น ๆ ค่ะ 

เมื่อเตรียมส่วนผสมทุกอย่างเรียบร้อย ก็มาลงมือทำกันดีกว่าค่ะ ..  ก็ให้เราใส่พริกขี้หนูแห้ง (แบบไม่คั่ว)  พริกจินดา และกระเทียมลงไปในครกนะคะ  แล้วโขลกให้แหลกแบบหยาบ ๆ ค่ะ  

เพิ่มเติม ::   ในส่วนของพริก สามารถเพิ่มลดได้ตามความเผ็ดที่ต้องการเลยนะคะ ซึ่งพริก 7 + 7 เม็ดที่พิมใส่ลงไป ตำออกมาแล้วจะเผ็ดกลางๆ ค่อนไปทางเผ็ดมาก แต่ไม่ถึงกับเผ็ดซี๊ดแบบกินส้มตำคำแล้วต้องกินน้ำตามอีกคำอ่ะค่ะ

เพิ่มเติม :: ถ้าใครไม่มีครก ก็ให้เอาพริกกับกระเทียมใส่ถุง ทุบด้วยอะไรก็ได้ที่แข็ง ๆ ให้พริกแหลก  เทออกใส่กาละัง แล้วขั้นตอนต่อ ๆ ไป ก็ใช้วิธีการผสมในกาละมัง แทนการผสมในครกนะคะ

พอพริกกระเทียมหยาบดีแล้ว ก็ใส่มะกอกฝาน มะเขือเทศสีดาหั่นชิ้นลงไป    ตามด้วยน้ำตาลปี๊บ น้ำปลา น้ำปลาร้า และน้ำมะนาว ......  คน ๆ ด้วยสากให้เข้ากันจนน้ำตาลปี๊บละลาย   ก็ลองใช้ช้อนตักขึ้นมาชิมรสดูนะคะ ว่าชอบไหม หากขาดอะไรก็เติมเพิ่มเอาตามชอบค่ะ 

เพิ่มเติม ::  เนื่องจากน้ำปลาร้าของแต่ละคนมีความเข้มข้นและความเค็มไม่เท่ากัน  ดังนั้นแล้วในขั้นตอนนี้ เพื่อน ๆ อาจจะยังไม่ต้องใส่น้ำปลาก็ได้นะคะ  แล้วหลังจากคนให้น้ำตาลปี๊บละลายแล้ว ลองใช้ช้อนตักน้ำส้มตำในครกขึ้นมาชิมดูสักนิด  ถ้าไม่เค็มค่อยเติมน้ำปลาเพิ่มค่ะ  หรือหากเผลอเติมน้ำปลาลงไป แล้วเค็มเกิน ก็เติมน้ำต้มสุกลงไปเพื่อเจือจาง แล้วก็อย่าลืมเติมน้ำมะนาวกับน้ำตาลปี๊บลงไปอีกอย่างละนิด เพื่อความกลมกล่อมด้วยนะคะ

จากนั้นก็ใส่เส้นมะละกอ เส้นขนมจีน ไส้กรอก หมูยอ ใบบัวบกหั่น  มะเขือเปราะหั่นลงไป  แล้วตำเบาๆ พร้อมกับใช้ช้อนใหญ่หรือทัพพีคลุกเคล้าให้เข้ากันค่ะ 

สุดท้ายก็คดใส่จาน  เสริฟพร้อมผักสดๆ  พวกผักบุ้งแดง แตงกวา กะหล่ำ ถั่วฝักยาว กระถิน ใบบัวบก  เราก็จะได้ตำขนมจีนสุดแซ่บไว้กินแล้วอ่ะค่ะ 

ตำขนมจีนจานนี้เนี่ย ส่วนผสมหลักก็คือมะละกอ ขนมจีน ผัก และก็เครื่องปรุงรสต่างๆ   ส่วนเนื้อสัตว์อย่างพวกหมูยอ ไส้กรอก เราสามารถปรับเปลี่ยนได้ตามชอบเลยค่ะ  บางทีพิมเองก็ใส่หมูสับรวนสุก หอยดอง  บางทีก็ใส่กุ้งใส่หมึกลวกสุกบ้าง  ก็มีนะคะ  ^_^

และถ้าอยากให้ตำขนมจีนจานนี้อร่อยมากยิ่งขึ้น นอกจากผักสดแล้ว เราอาจจะกินคู่กับแคบหมู  คอหมูย่าง  เนื้อย่าง  หรือปลาย่างก็ได้ แล้วตบท้ายด้วยข้าวเหนียวอีกสักกระติ๊บเล็กๆ  เท่านี้ก็อิ่มไปได้ครึ่งค่อนวันแล้วอ่ะค่ะ ยังไงไปลองทำทานกันดูนะคะ  ^_^