header



ช่วงที่ผ่านมาพิมห่างหายจากการรีวิวร้านอาหารไปนานมาก เพราะว่าไม่ค่อยมีเวลา   (เอาเวลาไปทำอาหารหมด - -")  แต่มาช่วงนี้พิมอยากกลับมารีวิวร้านอาหารอีกครั้ง

เลยขอประเดิมด้วยห้องอาหาร VIU  ซึ่งพิมได้ไปกินมาเมื่อตอนต้นเดือน แล้วรู้สึกประทับใจอ่ะค่ะ ^_^

ห้องอาหาร VIU  ตั้งอยู่ที่ชั้น 12 ของโรงแรม St.Reigs นะคะ ซึ่งโรงแรมนี้ก็จะตั้งอยู่บนถนนราชดำริ  เพื่อนๆ ที่ใช้บริการรถไฟฟ้าก็สามารถมาลงที่สถานีราชดำริแล้วเดินเข้าโรงแรมได้เลย หรือถ้าขับรถมาจากทาง WTC  ก็เลยสี่แยกไฟแดงมาสักประมาณ 1 ป้ายรถเมล์กว่าๆ เท่านั้นเองค่ะ 

19

ห้องอาหารแห่งนี้ จะพิเศษกว่าห้องอาหารอื่นตรงที่ครัวของเค้าจะเป็นแบบ Open  คือระหว่างที่เรานั่งทานอาหาร เราก็สามารถดูเชฟทำอาหารไปพร้อม ๆ กันได้เลยนะคะ

17

ซึ่ง ณ ปัจจุบันเนี่ย เชฟที่ประจำอยู่ห้องอาหารนี้คือ เชฟแมทธิว วูลฟอร์ด  (คนขวาสุดในภาพ) เป็นเชฟชาวออสเตรเลียที่ใจดี น่ารัก และคุยเก่งมาก ^_^   ... ที่สำคัญด้วยประสบการณ์ของเชฟที่ผ่านการทำงานทางด้านนี้มากว่า 20 ปี  (เชฟเริ่มเป็นเชฟตั้งแต่อายุ 17)    ทำให้เชพมีความสามารถในการสร้างสรรค์เมนูใหม่ๆ  ที่ทั้งน่าทานและอร่อยออกมาตลอดเลยค่ะ

01

สำหรับที่นั่งในห้องอาหารนี้ ก็จะมีทั้งแบบโต๊ะสำหรับ  1-4 ที่  

18

และมีโต๊ะยาวแบบในภาพด้านล่างนี้ สำหรับ  6-10 ที่    ซึ่งเพื่อนๆ สามารถเลือกนั่งได้ตามที่ชอบเลยนะคะ   

03

 และเมื่อเลือกที่นั่งได้แล้ว ก็ถึงเวลาเลือกเมนูสำหรับค่ำคืนนี้แล้วอ่ะค่ะ   ^_^   ซึ่งอาหารจานหลักของพิม พิมเลือกเป็น Lobster  นะคะ ส่วนของคุณสามีพิม เค้าเลือกเป็น Pork Chop ค่ะ   (เมนูสุดโปรดของคุณสามีพิมเลยล่ะ ^_^)

05

แล้วระหว่างที่รอจานหลักมาเสริฟ  เราก็ทานอาหารอย่างอื่นกันไปพลางๆ  ก่อนนะคะ  อย่างแรกเป็นขนมปังกับเนย  ที่ตอนแรกพิมก็คิดว่าแค่ขนมปังนะ ไม่น่าจะมีอะไรมาก แต่พอได้ชิมแล้วต้องบอกว่าขนมปังที่ห้องอาหารนี้อร่อยมากค่ะ   คือตัวขนมปังเค้าจะนุ่มๆ หน่อย แต่ขอบจะกรอบๆ หอมๆ  ยิ่งได้ทานคู่กับเนยเย็นๆ  ยิ่งอร่อยค่ะ 

02

 จากขนมปังต่อมาก็เป็นเมนู  Fresh Oysters  เมนูนี้พิมทานไม่เป็น (พิมไม่ทานของดิบเกือบทุกชนิด)  แต่คุณสามีบอกว่าอร่อยมากเลยค่ะ  ถึงหอยจะตัวไม่ใหญ่มาก แต่ความสดนี่ยก 10 นิ้วให้เลยนะคะ   

09

 จานต่อมาก็เป็น Akami Saku Tuna Tartar  หรือทูน่าทาร์ทาร์ ที่เสิรฟ์คู่กับครีมที่ทำจากอโวคาโด และเวเฟอร์วาซาบิกรอบอ่ะค่ะ   จานนี้รสชาตินุ่มละมุน เนื้อปลาแน่น  ทานทุกอย่างพร้อม ๆ กันแล้วอร่อยมากเลยค่ะ   ^_^

08

จานถัดมาก็คือ the Grilled Romaine, Crisp Parma Ham  หรือสลัดซีซ่าร์นะคะ  จานนี้เนี่ยขอบอกว่า อร่อยมากกกกกกกเลยค่ะ   เพราะว่าในจานมีแต่สิ่งที่พิมชอบ ไม่ว่าจะเป็นพาร์มาแฮม  เบค่อน ผักกาดสดๆ  และพาเมซานชีส  รวมไปถึงน้ำสลัดซีซ่าร์  ^_^   เรียกว่าถ้าไม่นับจานหลักแล้ว  อาหารจานนี้ก็เป็นจานที่พิมตักบ่อยที่สุด ตักอยู่คนเดียวจนเกือบจะหมดจานอ่ะค่ะ  >_< 

20

ส่วนจานนี้เป็นจานที่เชฟช่างสร้างสรรค์มากเลยค่ะ  พิมจำชื่ออาหารไม่ได้ แต่จำรสชาติของอาหารได้ติดปากเลยนะคะ เพราะโดยปกติแล้วเวลาเรานึกถึงกระดูกขาวัว เราก็จะคิดถึงกับแต่เอาไปทำน้ำสต๊อกอะไรประมาณนี้ใช่ไหมคะ  แต่สำหรับเมนูนี้เชฟเอากระดูกวัวไปปรุงรสยังไงไม่ทราบ  แล้วก็น่าจะเอาไปอบ  ออกมาเป็นเมนูจากกระดูกวัวที่หน้าตาน่าทานอย่างในภาพด้านล่างนี้   ซึ่งเวลาเราทาน เราจะตักไขกระดูกมาปาดบนแผ่นขนมปัง แล้วทานคู่กับหัวหอมผัด รสชาติมัน ๆ หวานๆ  หอม ๆ ค่ะ

10

 แล้วระหว่างที่พิมทานอาหารเรียกน้ำย่อยกันอยู่นั้น  พิมก็แอบมองดูชฟและผู้ช่วยเชฟที่กำลังเตรียมทำอาหารจานหลักให้พวกเราอยู่เป็นระยะค่ะ ซึ่งขอบอกว่าคนที่ชอบทำอาหาร ชอบดูคนอื่นทำอาหารอย่างพิม  มาเห็นแบบนี้แล้วเพลินมากเลยนะคะ ^_^

06

จากอาหารเรียกน้ำย่อย ต่อมาก็เป็นอาหารจานหลักอ่ะค่ะ    ซึ่งอาหารจานหลักของที่นี่ก็มีให้เลือก 8 เมนูนะคะ  แต่ว่าพิมถ่ายมาไม่ครบ ถ่ายเฉพาะที่สั่งมาทานกันเท่านั้นอ่ะค่ะ

สำหรับจานแรกของเพื่อนร่วมโต๊ะพิม ก็จะเป็น  24 Hour Wagyu Beef Short Rib  นะคะ  จานนี้เชฟจะนำเนื้อวากิว สันนอกเซอร์ลอย ที่เป็นเนื้อวัวไขมนต่ำ เลี้ยงด้วยธัญพืชไปตุ๋นเป็นเวลา 24 ชม. แล้วเสริฟพร้อมกับเนยเรุงรส Café de Paris  แต่ไม่รู้ว่าเชฟมีกรรมวิธีในการตุ๋นยังไง  เพราะในขณะที่เนื้อนั้นนุ่มมาก แต่ก็ยังมีความหวานหอมของเนื้ออยู่เต็มเปี่ยมเลยอ่ะค่ะ  ^_^

12

จานต่อมานี้มีชื่อว่า Herb Crusted Patagonian Tooth Fish  นะคะ   ในส่วนของเนื้อปลานั้นนุ่มและสดมาก  เมื่อทานคู่กับซอสด้านล่าง ก็ยิ่งเพิ่มความอร่อยค่ะ    (ซอสรสชาติคล้ายๆ ซอสซอสโบโลเนส)

13

จานต่อมาก็จะเป็น Grilled Mebekudu Pork Chop  นะคะ  จานนี้เนี่ยเป็นของคุณสามีพิมเองค่ะ  คุณเธอเป็นคนที่ชอบ Pork Chop มากกกกกก  แต่ยังหาทานที่ถูกใจไม่ได้เลย  เพราะที่เจอมาส่วนใหญ่จะย่างแห้งเกินหรือไม่ก็ดิบไปเลยอ่ะค่ะ   แต่พอคุณสามีได้ทานจานนี้  เค้าบอกว่าอร่อยมากเลยนะคะ คนย่าง Pork Chop  ย่างได้สุกกำลังดี ไม่นิ่มไปไม่แข็งไป    ยิ่งทานคู่กับแอ๊ปเปิ้ลอบที่ทางเชฟเสริฟคู่กันมาด้วย ก็ยิ่งอร่อย  และแน่นอนว่าคุณสามีพิมทานคนเดียวหมดจานเลยค่ะ ^^

14

ส่วนจานสุดท้ายอันนี้เป็นของพิมนะคะ  ชื่อเมนูก็คือ The St. Regis Maine Lobster หรือ กุ้งล็อบสเตอร์เธอร์มิดอร์ซอสสยามแม่รี่ค่ะ .... ตอนแรกที่พิมเห็นรายชื่ออาหารจานหลัก บอกตามตรงว่าก็ไม่รู้จะสั่งอะไรดีนะคะ  แต่ก็เลือกสั่งเมนูจากกุ้งล๊อบสเตอร์ไปค่ะ  ซึ่งขอบอกว่าไม่ผิดหวังเลย แถมอร่อยเกินความคาดหวังอีกต่างหาก เพราะเนื้อกุ้งที่นำเข้ามาจากเมืองเมน นิวอิงแลนด์ของอเมริกานั้นทั้งสดและหวาน  ทานคู่่กับข้าวในหม้อเล็ก ที่เสริฟคู่กันนี่หมดทั้งข้าวทั้งกุ้งแบบไม่รู้ตัวเลยอ่ะค่ะ  >_<  (อยากจะสั่งเพิ่มอีก แต่เกรงใจเจ้าภาพมากๆ) 

15

จบจากอาหารจานหลัก ก่อนจะกลับบ้านก็ต้องปิดท้ายด้วยของหวานกันสักหน่อยเน๊าะคะ  ^_^  กับ  St. Regis Hot Chocolate Lava Bowl  ค่ะ     เมนูนี้เชฟจะอบเค้กช๊อคโกแลตลาวาในชามใบโต  แล้วเวลาเสริฟก็เสริฟทั้งชาม คู่กับ Salted Caramel Ice Cream ลูกใหญ่  ซึ่งขอบอกว่าอร่อยมากค่ะ  แต่พิมแอบกินไม่หมด เพราะว่าชามใหญ่จริงๆ  หากใครไปทานแล้วจะสั่งเมนูนี้ พิมว่า 4 คนต่อ 1 ที่จะเหมาะสมที่สุดเลยอ่ะค่ะ ^_^

16

ห้องอาหาร VIU  เปิดให้บริการทั้งวันนะคะ แต่จะเปิดให้บริการมื้อค่ำ ตั้งแต่เวลา 18.00 -  22.30 น.อ่ะค่ะ   ถ้าเพื่อนๆ คนไหนสนใจ อยากสอบถามข้อมูลหรืออยากโทรไปจองที่นั่ง ก็โทรไปได้ที่เบอร์  02 207 7777 หรือที่ This email address is being protected from spambots. You need JavaScript enabled to view it. นะคะ   แล้วพบกับพิมกับการรีวิวร้านอาหารที่น่าสนใจอีกในครั้งถัดไป สวัสดีค่ะ ^_^

 



ครัวบ้านพิม on Facebook

สมาชิก