header



ถ้าพูดถึงอาหารที่มีธาตุเหล็กสูงเนี่ย พิมคิดว่าเพื่อน ๆ หลายคน คงจะนึกถึง "ตับหมู" กันเน๊าะคะ 

แต่ทั้ง ๆ ที่ตับหมูเป็นอาหารที่มีธาตุเหล็กสูงมากกก  และธาตุเหล็กก็เป็นแร่ธาตุสำคัญที่ช่วยในสร้างเม็ดเลือดแดง  เสริมสร้างการเจริญเติบโตของร่างกาย  แล้วก็ยังช่วยทำให้ร่างกายไม่อ่อนเพลีย   แต่หลายคนก็ไม่ชอบกินตับหมูสักเท่าไหร่   เพราะว่าไม่ชอบกลิ่นคาวของตับหมู  และ

เพราะงั้นวันนี้พิมก็เลยอยากจะมาชวนเพื่อน ๆ ทำเมนูอร่อยจากตับหมูแบบง่าย ๆ ค่ะ ซึ่งเมนูนี้นอกจากจะอร่อยแล้ว  พิมก็ยังแทรกเทคนิคในการทำให้ตับหมูไม่แข็ง และไม่มีกลิ่นคาวเอาไว้ด้วย  ...  ไปดูส่วนผสมและวิธีทำกันเลยค่า

fried pork liver with garlic 13

fried pork liver with garlic 14

:: ส่วนผสมและเครื่องปรุง ::

- ตับหมู หั่นเป็นชิ้นหนาประมาณ 1/2 ซม. 250 กรัม
- นมข้นจืด หรือ นมจืด  1/2 ถ้วย
- กระเทียมสับ 1/3 ถ้วย
- พริกไทยดำคั่วป่น 1/2 ช้อนชา (หมัก)
- พริกไทยดำคั่วป่น 1/2 ช้อนชา (ไว้โรยหน้า / ถ้าไม่ชอบกลิ่นพริกไทยมาก ไม่ต้องใส่ในส่วนนี้ก็ได้) 
- ซีอิ๊วขาว 1 + 1/2 ช้อนโต๊ะ
- ซอสปรุงรส 1/2 ช้อนโต๊ะ
- ซอสหอยนางรม 1 + 1/2 ช้อนโต๊ะ
- น้ำตาลทราย 1/2 ช้อนชา
- น้ำมัน  3 ช้อนโต๊ะ 
- ผักชีหั่นหยาบ 1 ต้นเล็กๆ 

ถ้วย = ถ้วยตวงมาตรฐาน   ส่วน ช้อนโต๊ะ-ช้อนชา = ช้อนตวงมาตรฐาน  เพื่อน ๆ สามารถอ่านรายละเอียด  สถานที่ซื้อ และวิธีการใช้ช้อนตวง ถ้วยตวง ได้ >> ที่นี่ << ค่ะ

fried pork liver with garlic 01

:: วิธีทำ ::

เริ่มต้นเนี่ย เราก็มาดูกันตั้งแต่การเลือกตับหมูเลยนะคะ ...... สำหรับตับหมู ให้เราเลือกตับที่สีแดงออกชมพู  อย่าเลือกตับสีแดงเข้มนะคะ  เพราะว่าถ้าแดงเข้มเนี่ยตับจะมีรสขม กลิ่นแรง  แล้วก็พยายามเลือกตับที่สดใหม่  เนื้อละเอียด (ดูจากหน้าตัดของตับส่วนที่ถูกตัดไปแล้ว)   เพราะจะมีกลิ่นคาวน้อยอ่ะค่ะ 

เมื่อได้ตับมาแล้ว ก็ให้เราหั่นตับเป็นชิ้นพอคำนะคะ อย่าหั่นให้บางมาก เพราะเดี๋๋ยวเวลาเราเอาไปผัด มันจะไม่นุ่มค่ะ  พอหั่นเสร็จก็นำตับไปแช่ในนมจืดที่เราเตรียมไว้สัก 30 นาทีนะคะ ซึ่งการแช่ตับในนมเนี่ย จะช่วยลดกลิ่นคาวตับ และจะทำให้ตับนุ่มขึ้นด้วยอ่ะค่ะ  ^_^

fried pork liver with garlic 02

และพอแช่นมครบเวลาแล้ว ก็ให้เราขยำๆ ตับในนม จนนมกลายเป็นสีชมพู  ก็เทนมทิ้งไป  จากนั้นก็ล้างตับในน้ำเปล่าหลาย ๆ ครั้ง พร้อมกับขยำอย่างเบามือไปด้วย จนกระทั่งน้ำล้างตับใส  แบบมองเห็นชิ้นตับในชามชัดเจน  ก็เป็นอันใช้ได้  เทตับใส่กระชอนพักไว้ให้สะเด็ดน้ำได้เลยนะคะ 

นอกเหนือจากการลวก/ผัด/ต้มที่นานเกินแล้ว สิ่งที่ทำให้ตับหมูแข็งได้อีกส่วน ก็คือ เลือดที่อยู่ในตับอ่ะค่ะ เพราะนั้นการล้างตับ ขยำตับในน้ำจนน้ำใสแบบนี้ นอกจากจะลดกลิ่นคาวตับแล้ว ยังทำให้ตับหมูไม่ค่อยแข็งเวลาที่เอาไปทำสุกด้วยนะคะ

fried pork liver with garlic 03

พอตับสะเด็ดน้ำดี ก็เทตับใส่กาละมังหรือชาม  แล้วใส่น้ำตาลทราย พริกไทยป่น  ซอสหอย ซอสปรุงรส และซิอิ๊วขาวลงไปค่ะ  เสร็จแล้วก็หมักตับไว้ประมาณสัก  10 นาทีนะคะ 

fried pork liver with garlic 04

fried pork liver with garlic 05

พอครบเวลา เราก็ตั้งกระทะบนเตาไฟโดยใช้ไฟกลาง ใส่น้ำมันลงไป  พอน้ำมันร้อนก็ใส่กระเทียมลงไปเจียวค่ะ

fried pork liver with garlic 06

และพอกระเทียมเหลือง เราก็ตักกระเทียมออกมาใส่ถ้วยไว้สักส่วนนึง  เช่น ครึ่งนึง เพื่อไว้โรยหน้า

fried pork liver with garlic 07

ส่วนในกระทะ เราก็เทตับที่หมักไว้แล้วใส่ลงไปเลยนะคะ   (ทั้งน้ำทั้งเนื้อ) 

fried pork liver with garlic 08

จากนั้นก็ผัด ๆ  ด้วยไฟกลาง  หากรู้สึกว่าน้ำในกระทะข้นไป ก็เติมน้ำซุปหรือน้ำเปล่าลงไปสักนิดหน่อย เช่น 2-3 ช้อนโต๊ะค่ะ 

fried pork liver with garlic 09

fried pork liver with garlic 10

แล้วพอตับสุกทั่วกันดี  ประมาณสัก 80-90%  ก็โรยพริกไทย กับใส่กระเทียมเจียวที่แบ่งไว้ในตอนแรกลงไปนะคะ 

fried pork liver with garlic 11

ผัดให้เข้ากันดี แล้วก็ปิดไฟเตาได้เลยจ้า

fried pork liver with garlic 12

สุดท้ายก็ตักใส่จาน โรยด้วยผักชีนิดหน่อย ก็พร้อมเสิร์ฟแล้วนะคะ  ^__^  ขอบอกว่าอร่อยมากกกก โดยเฉพาะเมื่อกินกับข้าวสวยร้อน ๆ ....  ล่าสุดพิมทำติดกัน 3 วันติด มื้อละ 1 จานขนาดนี้  คุณสามีกับน้องชายพิมทานกันหมดเกลี้ยงไม่เหลือแม้แต่น้ำในจานเลยอ่ะค่ะ 

fried pork liver with garlic 13

ตับเป็นของอร่อย และมีแร่ธาตุที่จำเป็นต่อร่างกายมากมาย  ถ้าเพื่อน ๆ จัดการกับตับอย่างถูกวิธี  รับรองทำยังไงก็ออกมาอร่อยนะคะ  

fried pork liver with garlic 14

ยังไงเพื่อน ๆ ลองไปทำทานกันดูค่ะ  มีอะไรสงสัยตรงไหนก็พิมพ์คำถามทิ้งไว้ได้  แล้วพิมจะเข้ามาตอบให้นะคะ  สวัสดีค่า ^_^

fried pork liver with garlic 16



ครัวบ้านพิม on Facebook

สมาชิก