2-3 ปีก่อน พิมเคยโพสต์วิธีทำข้าวเหนียวมูนหน้าปลา หน้ากุ้ง หน้าสังขยาไป ก็มีเพื่อน ๆ ให้ความสนใจมากเลยนะคะ  มากจนถึงตอนนี้มียอดเข้าชมในเวบรวมเกือบๆ 1.2 ล้านครั้งแล้วอ่ะค่ะ  ^_^

มาปีนี้ ... พิมก็เลยเอาอีกหนึ่งเมนูข้าวเหนียวมูนมาฝาก   เป็นเมนูข้าวเหนียวมูนที่เมื่อหลายปีก่อนพิมเคยไปเห็นร้านนึงเค้าทำขาย แล้วก็รู้สึกชอบนะคะ   ก็เลยลองกลับมาฝึกทำดู  ... พอทำเสร็จก็ให้คนในบ้านชิม ให้เพื่อนฝูงชิม รวมถึงให้ลูกค้าที่มาซื้อกับข้าวพิมได้ชิม  ปรากฎว่าทุกคนบอกอร่อย ก็เลยเป็นที่มาของ "ข้าวเหนียวธัญพืช" ในวันนี้อ่ะค่ะ ....... ที่สำคัญ เมนูนี้เป็นเมนูที่ปราศจากเนื้อสัตว์ ปราศจากผักมีกลิ่นฉุน เพราะนั้นคนที่กินเจ ทานได้ร้อยเปอร์เซ็นต์เลยค่า   เราไปดูส่วนผสมกับวิธีทำกันเลยเน๊าะคะ ^_^

:: ส่วนผสมและเครื่องปรุง "ข้าวเหนียวมูนธัญพืช" ::

- ข้าวเหนียวเขี้ยวงู  400 กรัม
- กะทิอัมพวา 1 ขวดเล็ก  
- น้ำตาลทรายขาว 220 กรัม
- เกลือสมุทรป่น 8 กรัม
- แปะก๊วยต้มสุก 1/3 ถ้วย
- ถั่วแดงต้มสุก 1/3 ถ้วย
- เผือกต้มสุก หั่นชิ้นสี่เหลี่ยม 1/3 ถ้วย
- แห้วต้มสุกในน้ำเชื่อม 1/3 ถ้วย
- ลูกเดือยต้มสุก 1/3 ถ้วย
- ถั่วลิสงต้มสุก 1/3 ถ้วย
- มะพร้าวทึนทึกขูดฝอย 2 ถ้วย

- สารส้มชนิดก้อน
- ใบเตยแก่ๆ 5-6 ใบ

- งาขาวคั่ว 1/2 ถ้วย หรือมากน้อยตามชอบ

** ธัญพืชต่างๆ ถ้าทำทานประมาณเท่าของพิม พิมแนะนำให้ซื้อตามซุ้มสลัดบาร์เลยนะคะ  เพราะว่าสะดวก รวดเร็ว ไม่ต้องเสียเวลามานั่งต้มอ่ะค่ะ

:: ส่วนผสมและเครื่องปรุง "กะทิราดหน้า" ::

- กะทิอัมพวา  1/2 ขวด
- เกลือป่น 1/2 ช้อนชา
- แป้งข้าวเจ้า 1/2 ช้อนโต๊ะ  

:: วิธีทำ ::

เริ่มต้น เราจะมาเตรียมในส่วนของข้าวเหนียวกันก่อน  ด้วยการขัดข้าวเหนียวด้วยสารส้มนะคะ    ^_^   ซึ่งการขัดข้าวเหนียวด้วยสารส้มเนี่ย  จะเป็นการขัดยางข้าวออกไป ทำให้เม็ดข้าวนั้นใส และการบูดเสียจะช้าลงอ่ะค่ะ 

** ข้าวเหนียวเขี้ยวงูเชียงราย เป็นข้าวเหนียวที่เม็ดเรียวยาว สวย และเวลาเอามามูนกับกะทิ จะมัน วาว กว่าข้าวเหนียวพันธุ์อื่น

** การที่ข้าวเหนียวมูนจะออกมาร่วน แยกเม็ด เหนียว หรือแฉะติดกันเป็นก้อน  ขึ้นอยู่กับชนิดของข้าว    ถ้าใช้ข้าวเหนียวใหม่ ซึ่งเป็นข้าวเหนียวอ่อน  (แช่น้ำสัก 2 ชม.)  เมื่อมูนเสร็จแล้ว จะออกมาแฉะ ๆ หน่อย  แต่ถ้าเป็นข้าวเหนียวเก่า ข้าวเหนียวเม็ดแข็งนิดนึง (แช่น้ำสัก 6 ชม.)   ข้าวเหนียวมูนจะเป็นเม็ดร่วนๆ ไม่ค่อยเกาะกัน  ...... ชอบอย่างไหนเลือกอย่างนั้นนะคะ 

วิธีการขัดข้าวนั้นก็ไม่ยุ่งยากค่ะ  ^_^ ให้เราเทน้ำสะอาดลงไปในกาละมังข้าวเหนียว ไม่ต้องมากนะคะ เอาแค่พอท่วมข้าวเล็กน้อย   แล้วหยิบสารส้มใส่ลงไปก้อนนึง ค่อย ๆ ขัดถูข้าวเหนียวกับสารส้มอย่างเบามือ  ไม่งั้นเม็ดข้าวจะหักได้  (โดยเฉพาะถ้าเป็นข้าวใหม่ เม็ดข้าวจะหักง่ายมาก >_<)   ขัดจนกระทั่งน้ำในกาละมังกลายเป็นน้ำสีขาวขุ่น  ก็ใช้ได้ล่ะค่ะ   

แล้วพอขัดข้าวเหนียวได้ที่แล้ว ก็ให้นำข้าวเหนียวไปล้างน้ำสะอาด จนกระทั่งน้ำใสแบบในภาพด้านล่างนี้นะคะ  จากนั้นแช่ข้าวเหนียวไว้ในน้ำประมาณ 2- 6  ชม. ขึ้นกับว่าเป็นข้าวเหนียวแบไหน ถ้าข้าวใหม่ ก็ 2 ชม.  ข้าวกลางเก่ากลางใหม่ 3-4 ชม.  และถ้าเป็นข้าวเก่าก็สัก 6 ชม.อ่ะค่ะ 

 พอครบเวลาเราก็นำข้าวเหนียวมาล้างน้ำสะอาดอีกที แล้วเทใส่กระชอนพักไว้ให้สะเด็ดน้ำนะคะ  ^_^

จากนั้นก็เทข้าวเหนียวใส่หวด หรือรังถึง (ถ้าใช้รังถึง เอาผ้าขาวบางรองก่อน ไม่งั้นข้าวจะเหนียวจะร่วงลงรูไปหมด)  แล้วนำข้าวเหนียวไปนึ่งให้สุก โดยใช้เวลาประมาณ 20-40 นาที ขึ้นกับว่าเป็นข้าวเหนียวเก่าหรือใหม่อ่ะค่ะ   (ถ้าไม่แน่ใจว่าข้าวเหนียวตัวเองเป็นแบบไหน  หลังจากนึ่งไปสัก  20 นาที ก็ลองเปิดฝา แล้วหยิบข้าวเหนียวขึ้นมาชิม (ระวังร้อน)  ถ้าไม่หรุบ เคี้ยวแล้วรู้สึกว่าข้าวสุกทั่วทั้งเม็ด  ก็เป็นอันว่าใช้ได้ล่ะค่า) 

 ระหว่างที่นึ่งข้าวเหนียว เพื่อไม่ให้เป็นการเสียเวลา  เราก็จะมาทำกะทิสำหรับมูนข้าวเหนียวกันนะคะ  ..... ให้เราผสมน้ำตาลทราย เกลือป่น ใบเตย  และที่ขาดไม่ได้ก็คือ กะทิอัมพวา ..... ใส่ลงไปในกาละมังหรือหม้อค่ะ  ^_^

 แล้วก็คนด้วยพายไม้/พายยาง/พายซิลิโคน  หรือเอาไปตั้งบนเตาไฟอ่อนๆ  จนกระทั่งน้ำตาลละลายหมด ก็ใช้ได้นะคะ ...... เสร็จแล้วก็พักเอาไว้ก่อนค่ะ 

จากนั้นพอใกล้เวลาที่ข้าวเหนียวจะสุก  เช่น เหลือเวลาอีกสัก 5 - 10 นาที  ก็ให้เราเอาธัญพืชทั้งหมดที่เตรียมไว้ เทใส่รังถึงอีกชั้น  ลงไปอุ่นให้ร้อนอีกครั้งนะคะ 

** ปกติถ้าเราซื้อรังถึงมา  (หรือเรียกง่าย ๆ ว่า #ซึ้ง) เค้าก็จะมีชั้นสำหรับนึ่ง มาให้เรา 2 ชั้นค่ะ แต่ถ้าใครที่มีชั้นนึ่งแค่ชั้นเดียว หรือว่าใช้ที่นึ่งแบบหม้อหรือแบบหวด ให้นึ่งข้าวเหนียวก่อน พอนึ่งสุกก็เอาไปมูนกับกะทิเลย  จากนั้นก็ค่อยนึ่งธัญพืชให้ร้อน  แล้วใส่ตามลงไปมูนทีหลังนะคะ

 และแล้วเมื่อนึ่งทุกอย่างครบเวลา เราก็จะได้ธัญพืชและข้าวเหนียวที่นึ่งสุกแล้วออกมาหน้าตาอย่างนี้อ่ะค่ะ 

 ก็ให้เราตักข้าวเหนียวและธัญพืชทั้งหมด  (ยกเว้นมะพร้าว เราจะเอาไว้โรยหน้า)  ใส่ลงไปในกาละมังน้ำกะทิที่เราทำไว้เมื่อกี้นะคะ 

เคล้าทุกอย่างให้เข้ากันด้วยพายไม้หรือพายยาง  พอเข้ากันก็เอาถาดหรือฝาหม้อมาปิดปากกาละมังไว้ค่ะ   แล้วพักข้าวเหนียวไว้ประมาณ 30 นาที  หรือจนกระทั่งข้าวเหนียวมูนดูดน้ำกะทิเข้าไปจนเต็มที่นะคะ  ซึ่งทุก ๆ  10 นาทีของการพัก  ให้เปิดฝาออกมาเอาพายเคล้าข้าวเหนียวมูนจากด้านบนลงด้านล่าง และจากด้านล่างขึ้นด้านบน เพื่อให้ทุกอย่างดูดซับกะทิได้อย่างเต็มที่อ่ะค่ะ  ^_^

และระหว่างที่เรารอข้าวเหนียวมูนใช้ได้ เราก็จะมาทำน้ำกะทิสำหรับราดหน้าข้าวเหนียวมูนกันนะคะ  .......  ก็ให้เราเทกะทิอัมพวาใส่ลงในหม้อใบเล็ก ๆ   แล้วตามด้วยเกลือป่นนิดหน่อยค่ะ (กะว่าให้กะทิชิมแล้วมีรสเค็มนิดหน่อย)    ถ้าใครชอบกะทิราดแบบข้นๆ  ก็ให้เติมแป้งข้าวเจ้าหรือแป้งสาลีลงไปด้วยนะคะ  จากนั้นคนด้วยตะกร้อมือให้เข้ากันค่ะ

 แล้วนำหม้อไปตั้งบนเตาไฟ โดยใช้ไฟอ่อน ๆ   พอกะทิเดือดและข้นขึ้น ก็ปิดไฟเตาได้เลยนะคะ  ^^

 ถึงเวลาทาน ก็ตักข้าวเหนียวมูนใส่จานหรือถ้วยใบเล็ก ๆ ค่ะ ราดด้วยหัวกะทิหน่อยนึง  มะพร้าวทึนทึกขูดฝอยอีกหน่อยนึง   ตามด้วยงาขาวคั่วมากน้อยตามชอบ  ...... เท่านี้เราก็จะได้ข้าวเหนียวมูนธัญพืชที่หน้าตาน่าทานแบบนี้แล้วนะคะ ^_^

สำหรับตัวธัญพืชเนี่ย เพื่อน ๆ ไม่จำเป็นต้องใช้แบบพิมก็ได้อ่ะค่ะ   หากไม่กินแห้ว ก็ไม่จำเป็นต้องใส่แห้ว  หากไม่กินถั่วแดง ก็ไม่จำเป็นต้องใส่ถั่วแดง  ชอบอย่างไหนใส่อย่างนั้น ชอบมากใส่มาก ชอบน้อยใส่น้อย ไม่ชอบจะไม่ใส่เลยก็ได้นะคะ แต่ขอให้ส่วนผสมธัญพืชรวมทั้งหมด ปริมาณเท่าหรือใกล้เคียงกับที่พิมใช้ ก็โอเคค่ะ  ^_^  ซึ่งความอร่อยของข้าวเหนียวมูนธัญพืช นอกจากจะมาจากข้าวเหนียว จากธัญพืชที่ใส่ไป  และจากวิธีการทำแล้ว ....  กะทิก็เป็นเรื่องสำคัญมาก ที่มองผ่านไม่ได้เลยนะคะ  ^_^

 ยังไงลองไปทำกันดูค่า  ติดขัดตรงไหนก็ทิ้งคำถามไว้ด้านล่างนี้ได้เลยนะคะ แล้วพิมจะมาทยอยตอบให้จ้า ^_^