พูดถึงลอดช่องสิงคโปร์แล้ว พิมคิดว่าหลายคนคงคิดว่าน่าจะมีต้นกำเนิดมาจากประเทศสิงคโปร์กันเป็นแน่แท้เลยเน๊าะคะ ^_^

แต่ในความเป็นจริงแล้ว พิมขอบอกเลยว่าไม่ใช่  เพราะจริง ๆ แล้วลอดช่องสิงคโปร์มีต้นกำเนิดอยู่ในเมืองไทยของเรานี่เองค่ะ  ซึ่งเท่าที่พิมเคยอ่านนิตยสารในสมัยเก่าๆ  เคยมีคนเขียนเอาไว้ว่า ลอดช่องสิงคโปร์ในสมัยก่อนเรียกว่าลอดช่องเฉย ๆ แต่เนื่องจากว่าเกรงมันจะไปซ้ำกับลอดช่องตัวอ้วน ๆ เขียวเข้มๆ ของไทย บวกกับตัวร้านตั้งอยู่ข้างๆ โรงหนังสิงคโปร์  คนก็เลยพากันเรียกว่าลอดช่องที่หน้าโรงหนังสิงคโปร์  และไปๆ มาๆ ก็เลยกลายเป็น "ลอดช่องสิงคโปร์" อย่างในทุกวันนี้อ่ะค่ะ

ลอดช่องสิงคโปร์เนี่ย เป็นอีกขนมนึงที่พิมว่าทั้งทำง่ายและกินง่ายนะคะ  คือขั้นตอนการทำอาจจะมีหลายขั้นนิดนึง แต่ในเรื่องของส่วนผสมและวิธีทำเนี่ยไม่มีอะไรยุ่งยากเลยค่ะ หากเพื่อน ๆ คนไหนทอดไข่ได้ ทำไข่เจียว ไข่ต้มได้  พิมเชื่อว่าการทำลอดช่องสิงคโปร์ก็ไม่ยากเกินความสามารถแน่นอน เราไปดูส่วนผสมและวิธีทำกันดีกว่านะคะ ^_^  

:: ส่วนผสม :: 

- ตัวลอดช่องสิงคโปร์  ตามสูตรด้านล่าง
- น้ำเชื่อม ตามสูตรด้านล่าง
- ขนุนสุกหั่นเป็นชิ้นยาว 1 ถ้วย
- กะทิอัมพวา 2 กล่อง
- น้ำแข็งบดละเอียด 

:: ส่วนผสม "น้ำเชื่อม" :: 

- น้ำตาลทรายขาว 2 ถ้วย
- น้ำลอยดอกมะลิ 1 ถ้วย
- ใบเตยหอม  5 ใบ มัดรวมกัน

 

:: ส่วนผสม "ตัวลอดช่อง" :: 

- แป้งมัน 1/2 ถ้วย
- แป้งข้าวเจ้า  2 + 1/2  ช้อนโต๊ะ 
- น้ำใบเตยคั้น 1/3 ถ้วย

:: วิธีทำ :: 

เริ่มแรกเรามาทำน้ำเชื่อมกันไว้ก่อนเลยนะคะ ก็ให้เราเทน้ำตาลทราย กับน้ำลอยดอกมะลิ (เอาแต่น้ำนะคะ ดอกมะลิไม่เอา)  ใส่ลงในหม้อใบย่อม ๆ ใบนึง  ใช้ช้อนหรือทัพพีคนให้น้ำตาลกับน้ำเข้ากัน   แล้วใส่ใบเตยมัดลงไปค่ะ  (ใบเตยตัดปลายแหลมๆ  ให้ดูเรียบร้อย ล้างสะอาด เช็ดให้แห้งแล้วก็จับมัด ๆ นะคะ)  

นำหม้อขึ้นตั้งไฟ ใช้ไฟกลาง พอเดือดก็หรี่ไฟลงเป็นไฟอ่อน แล้วเคี่ยวไปจนกระทั่งเหลือน้ำเชื่อมในหม้อประมาณ  2/3 จากของเดิม ก็ปิดไฟเตา แล้วพักไว้ให้เย็นค่ะ   พอเย็นก็ใส่ขนุนลงที่เราหั่นเป็นเส้นแล้ว ลงไปแช่ไว้ในน้ำเชื่อมนะคะ 

ต่อมาเราก็จะมาทำตัวลอดช่องกันค่ะ  .... ก็ให้เรานำน้ำใบเตยใส่ถ้วยทนความร้อน แล้วนำเข้าไมโครเวฟจนเดือด  (หรือจะนำไปใส่หม้อตั้งเตาไฟก็ได้นะคะ)   พอเดือดแล้วก็ให้เอามาเทใส่กาละมังที่มีแป้งทั้งสองอย่างอยู่ (คนแป้งให้เข้ากันก่อน ค่อยเทน้ำเดือดใส่)   แล้วรีบใช้พายไม้คนแป้งกับน้ำเดือดให้เข้ากันอย่างรวดเร็วค่ะ (ตามรูป 2)  จากนั้นพักแป้งไว้แป๊บนึง พอให้อุ่น ๆ ก็หยิบแป้งออกมานวดให้เนียนเป็นเนื้อเดียวกัน  (จะนวดในกาละมังเดิม หรือจะเอาออกมานวดบนโต๊ะ บนเจียงก็ได้นะคะ)  หากระหว่างนวดแป้งติดมือ ก็ให้ทามือด้วยแป้งมันเป็นระยะ ๆ ค่ะ จนกระทั่งแป้งมีสีเสมอกันก็ใช้ได้ล่ะนะคะ 

 จากนั้นนำแป้งนวล (แป้งมัน) มาโรยบนโต๊ะที่เราจะใช้คลึงแป้งค่ะ  หยิบก้อนแป้งออกมา แล้วค่อย ๆ ใช้ไม้คลึงแป้ง รีดแป้งออกให้เป็นแผ่นบางนะคะ  โดยให้มีความหนาสักประมาณ  1/4 ซม. ค่ะ 

 พอแป้งบางได้ที่ และบางเสมอกัน ก็ตัดแป้งเป็นแผ่น ให้ด้านนึงมีขนาด 3 นิ้ว  ส่วนอีกด้านยาวเท่าไหร่ก็ได้ แต่ก็ไม่ควรให้ยาวมากค่ะ

 จากนั้นก็ตักแป้งให้เป็นเส้น ๆ แบบในภาพนะคะ  ตัดเสร็จโรยแป้งมันลงไป  แล้วก็เคล้าให้เส้นกระจาย ๆ ออกจากกัน (แป้งจะช่วยทำให้เส้นไม่ติดกัน)  เราก็จะได้เส้นลอดช่องสิงคโปร์ออกมาอย่างในภาพด้านล่างอ่ะค่ะ 

ต่อมาก็เอาน้ำใส่หม้อใบย่อม ๆ สักใบให้สูงประมาณ 3-4 นิ้ว แล้วนำไปตั้งไฟให้เดือดนะคะ    ระหว่างรอน้ำเดือดก็นำเส้นลอดช่อง ใส่ตะกร้าตาถี่ๆ  เขย่าๆ ให้แป้งส่วนเกินหลุดออกจากเส้นบ้างค่ะ 

 พอน้ำเดือดดี เราก็ใส่เส้นลอดช่องลงไปต้มนะคะ   ใช้ไฟกลางค่อนมาทางอ่อนนิดนึง  ต้มแป๊บเดียวเส้นก็จะสุกใสและลอยขึ้นมาเหนือผิวน้ำ

 ก็เอากระชอนตาโปร่ง ๆ ช้อนเส้นลอดช่องขึ้นมาล้างในน้ำเย็นค่ะ  ถึงตรงนี้เราก็จะได้เส้นลอดช่องพร้อมทานแล้วนะคะ 

พอถึงเวลาเสริฟ เราก็ตักเส้นลอดช่องใส่ลงไปในถ้วยแก้วทรงสูงค่ะ  ตามด้วยน้ำเชื่อมที่มีขนุนหั่นชิ้น ปริมาณมากน้อยตามชอบนะคะ  คนพอให้น้ำเชื่อมกับเส้นลอดช่องเข้ากันเล็กน้อย  ก็โปะด้านบนแก้วด้วยน้ำแข็งป่นละเอียด  ราดกะทิอัมพวาลงไปจนถึงขอบแก้ว โรยด้วยขนุนฉีกด้านบนอีกสักหน่อย เท่านี้เราก็จะได้ลอดช่องสิงโปร์ที่หน้าตาน่าทานแล้วอ่ะค่ะ 

ยังไงลองไปทำทานกันดูนะคะ กับเมนูง่าย ๆ ที่พิมว่าใคร ๆ ก็ทำได้อ่ะค่ะ  ^_^ 

แล้วพบกันใหม่ในเมนูถัดไปนะคะ  สวัสดีค่ะ  ^_^

:: เพิ่มเติม ::

ปกติตัวลอดช่องสิงคโปร์ที่เค้าทำขายกันจะเป็นตัวกลมๆ ยาวๆ ซึ่งถ้าหากเราต้องการให้ตัวลอดช่องของเราเป็นแบบนั้น เราก็จะต้องใช้ที่กดลอดช่องที่มีลักษณะเป็นกระบอกแสตนเลส และมีรูด้านล่างนะคะ  ซึ่งพิมเคยเห็นว่ามีขายตามร้านขายอุปกรณ์ทำขายไทยบางร้าน  แต่ราคาก็หลายบาทอยู่อ่ะค่ะ   เพราะงั้นกรณีที่เค้าจะทำกินเอง หรือว่าอาจจะทำขายเล็ก ๆ น้อย ๆ  ก็ใช้วิธีรีดแผ่นแป้งให้บาง แล้วใช้มีดตัดเอาเป็นเส้น ๆ แบบนี้ก็ได้นะคะ ^_^