หลายวันแล้วที่พิมนึกอยากกินข้าวเม่าหมี่ แต่ว่าก็ไม่ค่อยได้เจอใครเอาข้าวเม่าดิบใหม่ๆ มาขายเลย จนกระทั่งเมื่ออาทิตย์ที่ผ่านมาพิมไปเดินเล่นที่ตลาดนัดหน้าปากซอย แล้วเจอแม่ค้าคนนึงเค้าเอามาขาย พิมก็เลยรีบซื้อไว้เลยค่ะ
"ข้าวเม่าหมี่" เนี่ย ... เป็นขนมอีกชนิดที่พิมได้กินมาตั้งแต่สมัยพิมยังเด็ก ๆ จนกระทั่งเริ่มเป็นวัยรุ่น โดยในสมัยนั้นยาย (ที่ไม่ใช่ยายแท้ๆ) จะเป็นคนทำให้กินอ่ะค่ะ แต่พออายุประมาณ 15 ปี เป็นช่วงที่บ้านเดิมของพิมโดนทางด่วน ญาติพี่น้องเลยมีการแยกกันไปอยู่คนละทิศละทาง ยายคนที่เคยทำข้าวเม่าหมี่ให้พิมกินก็ย้ายไปอยู่บ้านน้าสาว ทำให้หลังจากช่วงอายุ 15 ปี ไปจนถึงสัก 18-19 ปี พิมไม่เคยได้กินข้าวเม่าหมี่ฝีมือยายอีกเลยค่ะ
สมัยนั้นจะว่าไปพิมเองก็ทำข้าวเม่าหมี่ไม่เป็นค่ะ แต่เห็นมีคนทำขาย พิมก็เลยลองไปซื้อมากินดูแต่ก็ไม่ถูกใจค่ะ บางเจ้าก็เค็มไป บางเจ้าก็หวานไป บางเจ้าข้าวเม่าเหม็นหืนมาก ก็เลยไม่ค่อยได้ซื้อกิน .... และก็ลืมเลือนเรื่องข้าวเม่าหมี่ไปเลยค่ะ
จนะกระทั่งประมาณสักช่วงอายุ 20 ปี ตอนยังเรียน ปวส.อยู่ วันดีคืนดีพิมไปนั่งเล่นที่บ้านเพื่อนแล้วไปเจอกองหนังสือเก่าๆ ของน้าสาวเค้าที่กำลังจะขนไปทิ้ง ในนั้นก็มีนิตยสารทำอาหารเล่มนึงอยู่อ่ะค่ะ (เป็นนิตยสารประมาณปี 2522 หลังจากพิมเกิดแค่ 2-3 ปีเอง) ระหว่างนั่งรอเพื่อนก็เลยเปิดอ่านหนังสือเล่มนั้นไปพลางๆ ปรากฎว่าพิมไปเจอกับวิธีทำข้าวเม่าหมี่ในหนังสือเล่มนั้นอ่ะค่ะ แบบว่าแอบตื่นตะลึงมาก (ทั้งที่ไม่ใช่เรื่องน่าตื่นตะลึงเลย ฮ่ะๆ) ก็เลยตัดสินใจขอหนังสือเล่มนั้นจากน้าสาวเพื่อนเค้ากลับมาบ้านค่ะ
แล้วพอกลับถึงบ้านพิมก็ใช้เวลาหาวัตถุดิบอยู่ประมาณอาทิตย์กว่า (ข้าวเม่าหายาก) ถึงจะได้วัตถุดิบครบ จากนั้นพิมก็เริ่มลงมือหัดทำข้าวเม่าหมี่ตามหนังสือล่ะค่ะ ปรากฎว่าครั้งแรกที่ทำออกมาไม่ค่อยพอใจเท่าไหร่ค่ะ อาจจะเพราะยังขาดประสบการณ์ในการทำ อีกทั้งในหนังสือเล่มนั้นก็ไม่ได้บอกวิธีการทำอย่างละเอียด อะไรที่ทอดก็บอกแค่ว่าทอด อะไรที่ผัดก็บอกแค่ว่าผัด ไม่ได้บอกว่าต้องทอดยังไง ต้องผัดยังไง ... ผลก็เลยออกมาไม่ค่อยดีเท่าที่ควร
แต่ว่าหลังจากหัดทำอยู่สัก 3-4 ครั้ง ข้าวเม่าหมี่ของพิมก็เริ่มเป็นข้าวเม่าหมี่มากขึ้นค่ะ ... และในที่สุดหลังจากทำมานับหลายสิบครั้ง ก็กลายเป็นข้าวเม่าหมี่ที่สามารถเชิดหน้าชูตาพิมได้อย่างในภาพด้านล่างนี่แหละค่ะ ^__^
:: ส่วนผสม ::
- ข้าวเม่าดิบ 3/4 ถ้วย
- เต้าหู้แข็ง 1 ก้อน
- กุ้งแห้งเนื้อ ตัวไม่ต้องใหญ่มาก 1/2 ถ้วย
- กระเทียมซอยบาง ๆ 1 หัวเล็ก
- น้ำตาลทราย 1/4 ถ้วย
- เกลือธรรมดาที่ป่นละเอียด 1/2 ชช.
- น้ำมันพืชสำหรับทอด 1 + 1/2 ถ้วย
:: วิธีทำ ::
อันดับแรกก็มาจัดการข้าวเม่าดิบของเราก่อนนะคะ ..... โดยเมื่อได้ข้าวเม่าดิบมาแล้ว ให้เราเทข้าวเม่าดิบใส่กระจาดหรือกาละมังสักใบนะคะ แล้วเลือกสิ่งแปลกปลอมออก จากนั้นนำไปล้างน้ำ แล้วผึ่งให้แห้งสนิทค่ะ / แต่หากเพื่อนๆ มั่นใจว่าข้าวเม่าที่ได้มานั้นสะอาด เช่น เป็นข้าวเม่าที่ทำกันเอง ก็ไม่จำเป็นต้องล้างก็ได้ค่ะ
ต่อมาก็มาดูที่เต้าหู้ค่ะ ... สำหรับเต้าหู้พิมใช้เต้าหู้แข็ง ซึ่งจะเป็นเต้าหู้ขาวหรือเต้าหู้เหลืองก็ได้ ก็เอาเต้าหู้มาหั่นเป็นแผ่นยาวๆ ก่อน แล้วก็หั่นเป็นชิ้นเล็ก ๆ แบบในภาพด้านล่างอีกทีนะคะ
หั่นเสร็จก็ได้มาแบบนี้ค่ะ ...... พักเอาไว้ก่อน
กุ้งแห้ง .... ให้เลือกใช้กุ้งแห้งเนื้อ (ที่ไม่มีเปลือก) เลือกที่ตัวไม่ต้องโตมากค่ะ เพราะถ้าตัวโตมากเดี๋ยวเวลาเคี้ยวมันจะไม่เข้ากับส่วนอื่นอ่ะค่ะ ... (ในภาพนี่แอบโตไปนิดนึง แต่พอดีมันมีอยู่แล้ว) ... ล้างน้ำซะ 1 ครั้ง แล้วผึ่งไว้ให้แห้งค่ะ
กระเทียม ... ถ้าหัวเล็กใช้ 1 หัว หัวใหญ่ใช้ครึ่งหัว ก็ปอกเปลือกกระเทียมส่วนที่แข็ง ๆ ออกไป ก่อนที่จะฝานไว้เป็นแผ่นบางๆ แบบในภาพด้านล่างค่ะ
เมื่อเตรียมข้าวเม่า เต้าหู้ กุ้งแห้ง กระเทียมเสร็จ ... ก็มาลงมือทำกันเลยค่ะ ด้วยการตั้งกระทะบนเตาไฟ ใส่น้ำมันลงไปเยอะหน่อย แล้วเปิดไฟกลางๆ นะคะ ไม่ต้องแรงมาก
รอจนกระทะร้อน น้ำมันร้อน (แต่ไม่ต้องรอให้ขนาดมีควันขึ้น) ก็ตักข้าวเม่าดิบลงไปทอดจนพองฟูเต็มที่ และเหลืองสวยแบบในภาพ (ใช้เวลาแป๊บเดียว)
ป.ล. ทยอยแบ่งทอด 3 ครั้งนะคะ
ฦ
พอเหลืองดี (เหลืองอ่อนๆ) ก็ตักขึ้นพักไว้ให้สะเด็ดน้ำมัน ก่อนที่จะเทใส่ถาดไว้อ่ะค่ะ
ต่อมาในกระทะใบเดิม น้ำมันเดิม .... ก็ใส่กุ้งแห้งลงไปทอด ทอดจนเหลืองกรอบก็ตักขึ้นพักไว้ให้สะเด็ดน้ำมันเช่นกันนะคะ (ใช้เวลาไม่นานอีกล่ะ)
ทอดกุ้งแห้งเสร็จ ก็มาทอดเต้าหู้กันต่อค่ะ ... ซึ่งสำหรับเต้าหู้เนี่ย ขอย้ำว่าเราจะต้องทอดให้เหลืองและกรอบจนถึงเนื้อข้างในเลยนะคะ ไม่งั้นแล้วหลังจากทอดเสร็จหากเราทิ้งเอาไว้นานๆ เต้าหู้จะนิ่มๆแข็งๆ กินไม่อร่อยเลยค่ะ เพราะงั้นแล้วเวลาทอดเต้าหู้ต้องใจเย็นอย่างมาก เนื่องจากใช้เวลาค่อนข้างนานกว่าการทอดข้าวเม่าและทอดกุ้งแห้งค่ะ (แต่ก็ไม่นานเกินรอ)
และเมื่อเราทอดข้าวเม่า ทอดกุ้งแห้ง ทอดเต้าหู้เสร็จแล้ว ก็ให้เราเอาทั้งสามมาใส่ชามหรือถาดรวมกันไว้ตามในภาพนี้นะคะ ...... แล้วก็พักไว้แป๊บนึงก่อน
หันมาเจียวกระเทียมที่เราซอยเอาไว้แล้วในน้ำมันที่เหลือ จนเหลืองสวยแบบในภาพ ก็ตักขึ้นพักไว้ให้สะเด็ดน้ำมันค่ะ
จากนั้นก็ให้เราตักน้ำมันที่เหลือในกระทะออกไปให้หมด เหลือไว้แค่น้ำมันเคลือบกระทะบาง ๆ เท่านั้นก็พอ แล้วหรี่ไฟเตาให้เป็นไฟอ่อนๆ
เอาส่วนผสมข้าวเม่า + กุ้งแห้ง + เต้าหู้ที่เราใส่รวมกันไว้แล้วลงไปในกระทะ โรยเกลือกับน้ำตาลและกระเทียมเจียวตามลงไป
ผัดด้วยตะหลิว 4-5 ทีให้ส่วนผสมเข้ากันดี ... ก็เป็นอันว่าใช้ได้ ปิดไฟเตาได้เลยค่ะ (ไม่ต้องรอให้น้ำตาลละลาย) ... จากนั้นก็ตักขึ้นพักไว้ในกาละมังเพื่อรอให้เย็นตัวลงสักหน่อย ก่อนที่จะบรรจุใส่ถุงหรือใส่กล่องต่อไปค่ะ
และก็นี่ค่ะ "ข้าวเม่าหมี่" ดูหน้าตากันให้ชัด ๆ อีกที เป็นขนมหรือของว่างในสมัยโบราณที่อร่อยมาก ชนิดที่ว่าลองได้กินสักทีจะหยุดไม่อยู่เลยค่ะ (สำหรับพิมนะคะ คนอื่นไม่แน่ใจ แห๊ะๆ ^^")
ยังไงสำหรับเพื่อนๆ ที่สนใจก็อยากให้ลองทำกันดูค่ะ เพราะว่าทำไม่ยากเลย
หรือบ้านใครที่มีเด็กๆ หลายคน ลองทำขนมนี้ติดตู้ติดบ้านเอาไว้ให้เค้า เค้าจะได้ไม่ไปซื้อขนมซองละ 5 บาท 10 บาทกินอ่ะค่ะ
ยังไงก็ลองทำดูค่ะ มีอะไรสงสัยฝากข้อความทิ้งไว้ได้ แล้วพิมจะเข้ามาตอบให้นะคะ ^^