header



http://www.pim.in.th/images/all-thai-sweet/ko/400.JPG

เมื่อสักครู่รีวิววิธีการทำขนมโคกะทิ (หรือขนมหัวล้าน หรือบางคนเรียกขนมไข่เต่า) ไปแล้ว ..... พอมีเวลาอีกหน่อยก่อนจะนอน เลยจะมารีวิววิธีการทำ "ขนมโค"  ให้เพื่อนๆ ได้ดูไปพร้อมกันเลยค่ะ

"ขนมโค" .........  เป็นขนมพื้นบ้านของทางภาคใต้ชนิดนึงอ่ะค่ะ  ลักษณะภายนอกนั้นคล้ายขนมต้มขาวของทางภาคกลาง  แต่จะแตกต่างกันที่ไส้ใน  โดยไส้ของขนมต้มขาวนั้นจะทำจากมะพร้าวทึนทึกขูดเป็นเส้นผัดกับน้ำตาลมะพร้าว  แต่ไส้ของขนมโคนั้นจะเป็นน้ำตาลแว่นที่ทำจากตาลโตนดหั่นเป็นชิ้นเล็ก ๆ อ่ะค่ะ

ขนมโคนั้นเป็นขนมที่ทำง่ายมาก เพื่อนที่เป็นครูอยู่ในโรงเรียนแห่งนึงในสุราษฎร์ฯ เล่าให้พิมว่าหลายโรงเรียนประถมของทางภาคใต้ในวิชาการงานพื้นฐานอาชีพ (ประมาณนี้) ที่ครูต้องสอนนักเรียนให้หัดทำขนมหัดทำอาหาร ครูก็มักจะเอาขนมชนิดนี้แหละค่ะไปให้นักเรียนหัดทำกันอ่ะค่ะ  ซึ่งขนมนี้นอกจากจะใช้วัตถุดิบน้อย วัตถุดิบเป็นของพื้นบ้านแล้ว ก็มีขั้นตอนการทำที่ไม่ยุ่งยากอีกด้วยอ่ะค่ะ  ยังไงแล้ว.....หากเพื่อน ๆคนไหนสนใจก็ตามมาดูขั้นตอนในการทำไปพร้อม ๆ กับพิมเลยนะคะ

http://www.pim.in.th/images/all-thai-sweet/ko/kanom-ko13.JPG
http://www.pim.in.th/images/all-thai-sweet/ko/kanom-ko14.JPG
http://www.pim.in.th/images/all-thai-sweet/ko/kanom-ko15.JPG

แต่ก่อนจะไปลงมือทำ พิมขออธิบายนิดนึงค่ะว่า ... ตัวแป้งที่ใช้ในขนมชนิดนี้เป็นแป้งอย่างเดียวกันกับที่ใช้ในขนมโคกะทิ ดังนั้นแล้วด้วยความที่ว่าในวันที่ทำ พิมทำทั้งขนมโคกะทิ และโคเฉย ๆ พิมก็เลยนวดแป้งรวมกันเลย  ดังนั้นพิมก็เลยไม่มีภาพส่วนผสมในการทำขนมโคแบบถ่ายรวมๆ มาให้ดูนะคะ แต่ยังไงดูได้จากในภาพขั้นตอนวิธีการทำเลยอ่ะค่ะ

ว่าแล้วเราก็มาเริ่มต้นกันเลยนะคะ ....... อันดับแรกก็ต้องมานวดแป้งสำหรับทำตัวขนมกันก่อนค่ะ

:: ส่วนผสม "แป้งทำตัวขนม" ::

- แป้งข้าวเหนียวขาว 1 + 1/3 ถ้วยตวง
- น้ำลอยดอกมะลิ 1/2 ถ้วย + 1.5 ชต.

ป.ล. หากเพื่อน ๆ ต้องการให้แป้งมีสีสัน หรือมีกลิ่นหอมมากขึ้น ก็สามารถใช้พวกน้ำสีจากสมุนไพรเช่น เขียวจากใบเตย ส้มจากแครอท  ฟ้า-ม่วงจากอัญชัน แทนน้ำดอกมะลิได้อ่ะค่ะ

http://www.pim.in.th/images/all-thai-sweet/ko-kati/ko-kati-13.JPG

:: วิธีทำ "แป้งทำตัวขนม" ::

เริ่มต้นก็เทแป้งข้าวเหนียวที่เราเตรียมไว้ใส่ในกาละมังใบย่อม ๆ สักใบที่เราจะใช้นวดแป้งอ่ะนะคะ  แล้วก็เทน้ำลอยดอกมะลิใส่ลงไป (ไม่ต้องใส่ดอกมะลิลงไปด้วยนะคะ ^___^)  นวดๆ ให้เข้ากันดี ......  โดยเวลาเทเนี่ย ให้ค่อยๆ เทไปนวดไปนะคะ แป้งจะได้เหนียวนุ่ม

http://www.pim.in.th/images/all-thai-sweet/ko-kati/ko-kati-14.jpg

นวดเสร็จได้ออกมาแบบนี้  ก็พักแป้งไว้สัก 5 นาทีค่ะ

http://www.pim.in.th/images/all-thai-sweet/ko-kati/ko-kati-15.JPG

ระหว่างนั้น ด้วยความที่พิมอยากได้ขนมที่มีสีหวาน ๆ พิมก็เลยนวดแป้งเพิ่มมาอีก 2 สีตามในภาพด้านล่าง  นั่นคือ สีชมพู กับสีฟ้าอ่อน  โดยสีชมพูพิมใช้น้ำหวานเฮลบลูบอยด์ และสีฟ้าอ่อน ใช้สีจากการแช่ดอกอัญชันในน้ำร้อนอ่ะค่ะ    (แป้งกับน้ำที่ใช้นวดอีก 2 สีนั้น นอกเหนือจากในสูตรที่ให้ไว้ด้านบนนะคะ)   วิธีการนวดก็นวดแบบเดียวกัน สัดส่วนแป้งกับน้ำที่ใช้ก็สัดส่วนเดียวกันนะคะ ... นวดเสร็จแล้วก็พักแป้งไว้เหมือนกันค่ะ ^__^

ป.ล. จริง ๆ ก็อยากได้สีเขียวนะคะ ซึ่งสีเขียวจะใช้คั้นจากใบเตย  แต่ว่า - -" ขี้เกียจออกไปตัดใบเตยในสวนค่ะ เพราะว่ามันเฉอะแฉะมาก เลยเอาสีจากธรรมชาติเท่าที่มีในบ้านไปก่อนนะคะ

http://www.pim.in.th/images/all-thai-sweet/ko-kati/ko-kati-16.JPG

แล้วพอพักแป้งครบ 5 นาที (หรืออาจจะนานกว่านั้นสักเล็กน้อยก็ได้) ......  เราก็มาตัวขนมกันต่อเลยนะคะ แต่ก่อนจะทำ มาดูส่วนผสมที่ใช้กันก่อนค่ะ

:: ส่วนผสม "ตัวขนม" ::

- แป้งที่เรานวดไว้แล้ว 1 ชุด
- น้ำตาลแว่นที่ทำจากน้ำตาลโตนด  (แต่วันนี้พิมไม่มีเลยใช้น้ำตาลจากตาลโตนดแบบธรรมดาแทน)  หั่นเป็นชิ้นเล็กๆ  30-40 ชิ้นตามชอบ
- มะพร้าวทึนทึกขูดฝอย  1 ถ้วย  (นำไปนึ่งให้สุก 5 นาทีนับจากน้ำเดือด)

http://www.pim.in.th/images/all-thai-sweet/ko/kanom-ko06.JPG

:: วิธีทำ "ตัวขนม" ::

เริ่มต้นเลยก็ให้เราตั้งหม้อน้ำที่เราจะใช้ต้มแป้ง (ตัวขนม) บนเตาไฟกันค่ะ ........  โดยการเอาน้ำใส่ในภาชนะที่เราจะใช้ต้มแป้ง (พิมใช้กระทะทอง)  ให้มีความสูงประมาณ  3- นิ้ว  + ใส่ใบเตยที่ล้างสะอาดแล้วสัก 3-4 ใบลงไป  (ในรูปยังไม่ได้ใส่)  แล้วนำภาชนะนั้นไปตั้งบนเตาไฟ เปิดไฟกลาง  จากนั้นก็รอจนน้ำเดือดค่ะ

http://www.pim.in.th/images/all-thai-sweet/ko-kati/ko-kati-17.JPG

พอน้ำเดือด ก็ปั้นแป้งข้าวเหนียวที่เรานวดไว้เป็นก้อนกลมๆ ขนาดเส้นผ่าศูนย์กลางสัก  1 ซม. (พิมกะๆ  เอานะคะ ไม่ได้วัดเป๊ะๆ)   แผ่แป้งออกให้เป็นแผ่นบาง ใส่น้ำตาลแว่นที่เราหั่นเป็นชิ้นไว้แล้วลงไป  หุ้มด้วยแป้งให้มิด ปั้นให้เป็นก้อนกลมๆ  อีกรอบ

http://www.pim.in.th/images/all-thai-sweet/ko/kanom-ko09.jpg

แล้วก็ใส่ลงไปต้มในหม้อน้ำเดือดที่เราตั้งบนเตาไฟไว้อ่ะค่ะ  ...... ซึ่งตอนที่ใส่แป้งไปตอนแรก แป้งจะจมลงก้นหม้อ/ก้นกระทะทองเลย  แต่สักพักพอแป้งเริ่มสุก แป้งจะค่อย ๆ ลอยขึ้นมาค่ะ  จนกระทั่งลอยถึงผิวน้ำ ก็ช้อนขึ้นด้วยทัพพีโปร่งๆ เอาแต่แป้งหรือตัวขนมของเราอ่ะค่ะ

http://www.pim.in.th/images/all-thai-sweet/ko/kanom-ko10.jpg

แล้วเทใส่ไปในกาละมังมะพร้าวทึนทึกที่เราเตรียมไว้ เคล้ากับมะพร้าวทึนทึกให้ทั่ว ..... เป็นอันว่าเราทำขนมโคเสร็จเรียบร้อยแล้วค่ะ ^___^

http://www.pim.in.th/images/all-thai-sweet/ko/kanom-ko11.JPG

แล้วเราก็จะได้ขนมโคที่หน้าตาแลดูน่าทานออกมาอย่างในภาพด้านล่างนี้นะคะ ขอบอกว่ากินตอนร้อนๆ หรืออุ่นๆ นั้นอร่อยมากค่ะ

http://www.pim.in.th/images/all-thai-sweet/ko/kanom-ko13.JPG

โดยความอร่อยของขนมโคแบบนี้นั้น นอกจากตัวแป้งและมะพร้าวแล้ว สิ่งสำคัญเลยคือน้ำตาลค่ะ  น้ำตาลที่เหมาะสมกับขนมโคคือน้ำตาลแว่นที่ทำจากตาลโตนด  เพราะเป็นน้ำตาลที่เวลาเราเอาใส่เป็นไส้ขนม แล้วนำตัวขนมไปต้ม  น้ำตาลจะไม่เหลว ไม่ไหลเยิ้ม แต่จะยังคงเป็นก้อนแข็ง  ทำให้เวลาเราเคี้ยวไปพร้อมๆกับแป้งและมะพร้าว มันอร่อยมากค่ะ  ^___^   แต่ถ้าใครที่หาน้ำตาลแว่นอย่างที่พิมบอกไม่ได้ ก็อาจจะอนุโลมใช้น้ำตาลโตนดแบบธรรมดาอย่างที่พิมใช้ก็ได้ค่ะ  แต่ความอร่อยก็จะลดลงไปนะคะ

http://www.pim.in.th/images/all-thai-sweet/ko/kanom-ko14.JPG

และเคล็ดลับอีกอย่างที่จะทำให้ขนมโคนี้อร่อยมากขึ้นนั่นก็คือ หลังจากคลุกมะพร้าวแล้ว ให้นำขนมโคไปห่อด้วยใบตองสดค่ะ ลักษณะการห่อก็แบบเดียวกับการห่อขนมใส่ไส้  โดยห่อไว้ราว 5 นาทีก็ค่อยเปิดห่อออก  ซึ่งการทำแบบนี้จะทำให้ขนมมีกลิ่นหอมจากใบตองซึ่งเป็นกลิ่นหอมตามธรรมชาติของขนมไทยหลาย ๆ ชนิด .......  และสุดท้ายหากเพื่อน ๆ คนไหนสนใจ ก็ลองทำกันดูนะคะ เป็นอีกขนมไทยชนิดนึงที่ทำไม่ยาก และพิมอยากให้ทุกคนได้ลองทำกันดูค่ะ ^__^

http://www.pim.in.th/images/all-thai-sweet/ko/kanom-ko15.JPG

:: เพิ่มเติม ::

พอดีมีหลายคนบอกพิมว่า ขนมนี้ทางภาคกลางเรียกว่าขนมต้มขาวนะคะ .......   แต่พิมขอยืนยันอ่ะค่ะว่าขนมที่พิมทำในหน้านี้คือ "ขนมโค" ไม่ใช่ขนมต้มขาว ^__^

ซึ่งขนมโคกับขนมต้มขาวนั้น หน้าตาภายนอกอาจจะดูเหมือนๆ กันค่ะ แต่จะต่างกันที่ไส้  ..........  ตัวขนมต้มนั้นไส้จะทำด้วยมะพร้าวทึนทึกขูดเป็นเส้นบ้างเป็นฝอยบ้างผัดกับน้ำตาลมะพร้าว/น้ำตาลโตนด  แต่ขนมโคนั้น ส่วนของไส้จะเป็นก้อนน้ำตาลล้วนๆ อย่างเดียวเลยอ่ะค่ะ  และข้อแตกต่างอีกอย่างระหว่างขนมต้มกับขนมโตนั่นก็คือ  (โดยส่วนใหญ่นะคะ ไม่ใช่ทั้งหมด)  ขนมต้มมักจะปั้นเป็นลูกโตหน่อย คลุกด้วยมะพร้าวทึนทึกขูดเป็นเส้นและเคล้าเกลือพอให้มีรสเค็มปะแหล่ม  แต่ขนมโคนั้นมักจะปั้นเป็นลูกเล็กๆ และคลุกด้วยมะพร้าวทึนทึกขูดเป็นฝอยๆ อ่ะค่ะ ^__^



ครัวบ้านพิม on Facebook

สมาชิก