header



ถ้าพูดถึงข้าวที่ทั้งสีสวยแล้วก็มีประโยชน์เยอะ พิมเชื่อว่าเพื่อน ๆ ส่วนใหญ่น่าจะนึกถึง "ข้าวไรซ์เบอรี่" กันเน๊าะคะ  ^_^

#ข้าวไรซ์เบอรี่   เป็นข้าวที่เพิ่งเกิดขึ้นมาใหม่เมื่อไม่นานมานี้  ถ้าพิมจำไม่ผิดก็ประมาณช่วงปี 2545-2548   โดยทีมนักวิจัยจาก ม.เกษตร เค้าได้นำเอาข้าวขาวมะลิ 105 (ข้าวหอมมะลิ)  มาผสมข้ามพันธุ์กับข้าวหอมนิล  ได้ออกมาเป็นข้าวสีม่วงเข้ม  และตั้งชื่อว่า "ข้าวไรซ์เบอรี่" ค่ะ   

ข้าวไรซ์เบอรี่เป็นข้าวเจ้าที่มีลักษณะเม็ดเรียวยาว มีความมันวาว  รสชาติหอมมัน และเมื่อเคี้ยวก็จะสัมผัสได้ถึงความหนึบนุ่มนะคะ   ที่สำคัญคือมีสารต้านอนุมูลอิสระ กับโฟเลตในปริมาณสูงมากเมื่อเทียบกับข้าวชนิดอื่นๆ    ซึ่งเจ้าสารสองตัวนี้ช่วยลดความเสี่ยงของการเกิดโรคมะเร็ง  ชะลอความเสื่อมของเซลล์ต่าง ๆ ในร่างกาย   ช่วยสร้างคอลลาเจนทำให้ผิวหนังเต่งตึง  ช่วยปกป้องผิวหนังจากแสงแดด ความร้อน ช่วยชะลอเรื่องของตีนกา  ลดความเสี่ยงในการเป็นอัลไซเมอร์  ช่วยควบคุมการสร้างกรดอะมิโนที่จำเป็นต่อร่างกาย  และก็ยังมีเบต้าแคโรทีน  วิตามินอี , วิตามินบี 1  สังกะสี, โอเมก้า 3  ธาตุเหล็ก ฯลฯ  ที่จะช่วยป้องกันการเกิดโรคเบาหวาน โรคมะเร็ง โรคหลอดเหลือด โรคหัวใจ โรคความดันโลหิตสูง โรคสมองเสื่อม และโรคโลหิตจางได้อีกด้วยค่ะ  เพราะนั้นแล้วถ้าเป็นไปได้  เราลองเปลี่ยนจากการทานขาวข้าว มาลองทานข้าวไรซ์เบอรี่กันดีไหมคะ ^_^ 

แต่ด้วยความที่ข้าวไรซ์เบอรี่เป็นข้าวที่ผ่านกระบวนการขัดสีมาน้อย  (สารอาหารจึงมีอยู่เยอะมาก)  ก็เลยทำให้เวลาเราเอามาหุงทานเนี่ย มันจะมีรสสัมผัสต่างจากข้าวชนิดอื่น ๆ  โดยเฉพาะกับข้าวหอมมะลิค่ะ  เพราะนั้นบางคนที่ไม่เคยชินกับการทานข้าวประเภทนี้ ก็อาจจะรู้สึกว่า อุ้ยยยย มันทานยากจัง  ไม่อยากทานเลย หรือมันสามารถเอาไปแปรรูปทำเป็นข้าวแบบอื่นได้ไหม (นอกจากกินกับกับข้าวทั่วไป)  ... ทำนองนี้นะคะ 

เพราะนั้นวันนี้พิมก็เลยอยากจะมาแชร์สูตรอาหารที่ทำจากข้าวไรซ์เบอรี่ให้เพื่อน ๆ ได้ลองเอาไปทำดูกันค่ะ   สูตรอาหารสูตรนี้นอกจากจะทำไม่ยากแล้ว  ก็ยังทานได้ทุกเพศทุกวัย และสามารถปรับวัตถุดิบบางอย่างให้เข้ากับความต้องการของแต่ละคนได้ด้วยนะคะ  

เพื่อไม่ให้เสียเวลา ไปดูสูตรและวิธีทำกันเลยค่า  

riceberry soup 24

riceberry soup 27

:: ส่วนผสมและเครื่องปรุง ::

- ข้าวไรซ์เบอรี่ (ยังไม่ได้หุง)  1/2 ถ้วย
- อกไก่ (ไม่เอาหนัง)  150 - 200 กรัม (ตามความชอบ) 
- น้ำเปล่าสำหรับต้มอกไก่ 2 + 1/2  ถ้วย
- น้ำซุปไก่ 2 ถ้วย 
- เนยจืด 30 กรัม  (เปลี่ยนเป็นน้ำมันรำข้าว/ถั่วเหลือง/มะกอกแบบ Light ได้)
- หอมใหญ่สับละเอียด 1/3 ถ้วย
- กระเทียมสับละเอียด 1 ช้อนโต๊ะ
- กะทิคั้นสด 1 ถ้วย   หรือ กะทิกล่อง 3/4 ถ้วย + น้ำเปล่า 1/4 ถ้วย
- เกลือปน 1 + 1/2 ช้อนชา
- พริกไทยดำป่น 1 ช้อนชา (หรือมากน้อยตามชอบ)
- เชดด้าชีสขูด 1/4 ถ้วย  (ใส่หรือไม่ใส่ก็ได้) 
- ต้นหอมซอยเล็กน้อย สำหรับโรยหน้า

riceberry soup 01

:: วิธีทำ ::

อันดับแรกเลยเรามาทำเครื่องที่จะไว้ใช้โรยหน้าซุปของเรากันก่อน   วันนี้พิมใช้เป็นไก่ฉีกค่ะ  วิธีทำก็ไม่มีอะไรยุ่งยาก เริ่มจากตั้งหม้อน้ำเปล่า (น้ำ 2 + 1/2 ถ้วยจากในสูตร) ให้เดือด    แล้วใส่อกไก่ลงไป  ใช้เวลาต้มประมาณ 10-15 นาที  (ขึ้นกับความหนาของชิ้นไก่) จนกระทั่งไก่สุกดี ก็ตักขึ้นพักไว้ให้เย็น  แล้วก็ฉีกไว้เป็นเส้น ๆ นะคะ 

riceberry soup 02

riceberry soup 03

riceberry soup 04

ต่อมาเราจะมาทำตัวซุปข้าวกันค่ะ    เริ่มจากใส่หอมใหญ่ประมาณครึ่งลูก  กับกระเทียมกลีบใหญ่ 4-5 กลีบลงในโถปั่น แล้วปั่นให้ละเอียด    พิมใช้โถปั่นที่มากับเครื่องปั่นมือถือ Summer Magic Handy 3 in 1 >> ชุดนี้ <<   ตอนปั่นจะใช้ความแรงระดับ 1 หรือ Turbo ก็ได้  ตามความรวดเร็วที่ชอบเลยนะคะ ^_^   

riceberry soup 05riceberry soup 06

riceberry soup 07

จากนั้นตั้งหม้อเปล่าบนเตา เปิดไฟอ่อน  ใส่เนยลงไป รอจนเนยละลาย ก็ใส่หอมใหญ่+กระเทียมที่เราปั่นไว้เมื่อกี้ ลงไปผัดให้สุกใสค่ะ 

riceberry soup 08

riceberry soup 09

แล้วก็ใส่น้ำซุปไก่ 2 ถ้วย  ใส่น้ำที่ได้จากการต้มไก่ไปอีกประมาณ 2 ถ้วย   ตามด้วยข้าวไรซ์เบอรี่ที่ล้างสะอาดแล้วนะคะ 

riceberry soup 10

riceberry soup 11

เร่งไฟแรงเพื่อให้น้ำซุปในหม้อเดือด  พอเดือด ก็ลดลงเป็นไฟกลางค่อนไปทางอ่อน  ต้มข้าวไปเรื่อยๆ  ประมาณ 30-40 นาทีค่ะ    (ปริมาณน้ำที่เหลือในหม้อ ขึ้นกับว่าระหว่างต้มใช้ไฟแรงมากน้อยแค่ไหนนะคะ)  

riceberry soup 12

พอได้ข้าวสุกนุ่มตามต้องการแล้ว  ก็ใส่กะทิลงไป คนให้ส่วนผสมเข้ากัน

riceberry soup 15

จากนั้นก็เอาไปปั่นให้ละเอียดค่ะ  จะปั่นด้วยการเทใส่เครื่องปั่นน้ำผลไม้แล้วปั่นๆ  หรือว่าปั่นด้วยเครื่องปั่นมือถือแบบพิมก็ตามสะดวกเลยนะคะ  แต่ถ้าให้พิมแนะนำ ปั่นด้วยเครื่องปั่นมือถือจะดีกว่า เพราะนอกจากจะใช้งานสะดวก   ก็ยังล้างทำความสะอาดง่าย และไม่ต้องกังวลกับเรื่องความร้อนด้วยค่ะ 

** เครื่องปั่นมือถือที่พิมใช้ คือ  Summer Magic Handy 3 in 1 >> ชุดนี้ <<  นะคะ

riceberry soup 13

riceberry soup 14

วิธีใช้งานเจ้าเครื่องปั่นมือถือแบบนี้ ก็ไม่มีอะไรยุ่งยาก  แค่วางหัวปั่นที่ต่อกับตัวที่จับลงไปในหม้อ เสียบปลั๊ก  กดปุ่มปั่น  แล้วก็ขยับหัวปั่นไปเรื่อย ๆ รอบหม้อ จนได้ข้าวที่ละเอียดตามต้องการก็ใช้ได้ค่ะ

** ระหว่างปั่น ปิดเตาไฟด้วย จะได้ไม่เปลืองไฟจ้า

riceberry soup 16

จากนั้นก็ปรุงรสด้วยเกลือป่น  พริกไทยดำป่น  และก็ชีสนะคะ   ถ้าใครไม่ชอบชีส ไม่ต้องใส่ก็ได้ แต่ให้เพิ่มเกลือไปอีกนิดนึงค่ะ  

riceberry soup 17

แล้วก็เปิดไฟเตา คนทุกอย่างให้เข้ากัน ถ้าหากข้นไปก็เติมน้ำซุป หรือน้ำเปล่าได้ตามความข้นที่ชอบนะคะ  (พิมเติมไปอีกประมาณ 1 ถ้วยกว่า ๆ / ไม่มีในสูตร)   แล้วก็ลองชิมรสดู  ถ้าขาดรสอะไรไปก็เติมเพิ่มได้ตามชอบเลย  พอเดือดก็ปิดไฟเตาค่ะ 

** ความข้นของซุปขึ้นอยู่กับว่า ตอนที่เราต้มข้าวสุกแล้ว เราเหลือน้ำในหม้อข้าวมากน้อยแค่ไหนนะคะ  ซึ่งเราสามารถเติมน้ำเปล่าเพิ่มได้ตามความข้นที่ชอบ อาจจะมากหรือน้อยกว่าที่พิมเติม  ขึ้นกับว่าแต่ละคนชอบซุปที่ข้นมากน้อยแค่ไหนค่ะ 

riceberry soup 18

 ก็จะได้ออกมาเป็นซุปข้าวไรซ์เบอรี่หน้าตาอย่างในภาพนี้นะคะ 

riceberry soup 19

ถึงเวลาทานก็ตักซุปใส่ถ้วย โรยหน้าด้วยไก่ฉีกและต้นหอมซอยที่เราเตรียมไว้  เท่านี้ก็จะได้ซุปข้าวไรซ์เบอรี่พร้อมทานแล้วล่ะค่ะ    

riceberry soup 24

และถ้าหากทานไม่หมดในวันเดียว เราก็สามารถเก็บซุปกับไก่ (แยกกัน) แช่ตู้เย็นไว้ได้  3-4  วัน เพื่ออุ่นทานในวันหลังนะคะ 

riceberry soup 27

สำหรับใครที่ไม่ทานไก่  อาจจะเปลี่ยนจากไก่ฉีกเป็นกุ้งต้ม เป็นเนื้อหมูฉีก เป็นของทะเล  และเปลี่ยนจากน้ำซุปไก่ เป็นน้ำซุปกระดูกหมู หรือน้ำซุปที่ได้จากการต้มกุ้งก็ได้นะคะ  .. ยังไงลองไปทำกันดูน๊า แล้วพบกับพิมใหม่ในเมนูถัดไปจ้า  

riceberry soup 20

:: เพิ่มเติม ::

อ่านรีวิว   Summer Magic Handy 3 in 1 ได้ >> ที่นี่ <<  และถ้าสนใจ ก็สามารถหาซื้อได้ที่  >> เวบ 2010 Megastore << ค่ะ

https://www.pim.in.th/images/products/summer-magic-handy/magic-handy-01.jpg



ครัวบ้านพิม on Facebook

สมาชิก