header



http://pim.in.th/images/pim-travel/hauhin/701.jpg

ทริปหัวหินในครั้งนี้ .. จริงๆ แล้วเป็นทริปที่ไม่ได้ตั้งใจจะไปเลยค่ะ  แต่พอดีว่าครอบครัวคุณสามีขึ้นจากสุราษฎร์มาทำธุระที่หัวหินพอดี  ด้วยความที่ไม่ได้เจอกันนานมาก ก็เลยตัดสินใจว่าจะลงไปหาและไปเจอกันที่หัวหินค่ะ

แต่ด้วยความโก๊ะของพิมเน๊าะ  พิมรับรู้จากคุณสามีว่าจะต้องไปหัวหินอย่างแน่นอนตอนประมาณเกือบบ่าย 2 โมง  พอรู้พิมก็ถามคุณสามีว่าเราจะไปรถแบบไหนกันดีระหว่างรถทัวร์กับรถไฟ  ส่วนตัวพิมเนี่ยชอบรถไฟแต่ไม่ชอบการเดินทางโดยรถไฟค่ะ เพราะในชีวิตเนี่ยขึ้นรถไฟมาประมาณ 14-15 กว่าครั้ง  มีสองครั้งเท่านั้นค่ะที่รถไฟไม่เลท >_<"   และที่เลทเนี่ยเคยเลทน้อยสุดก็ประมาณ 1 ชม.  แต่เลทมากสุดเกือบ 7  ชม.    แถมครั้งที่เลทมากเนี่ยเป็นครั้งที่พิมรอรถไฟอยู่ที่สถานีต่างจังหวัดแห่งหนึ่ง  แล้วมีผู้โดยสารแค่พิมกับคุณสามีแค่ 2 คน   ไม่มีคนอื่นเลยค่ะ  แถมแถวนั้นก็น่ากลัวมากแบบว่าอย่างเปลี่ยวเลย   แล้วเจ้าหน้าที่ประจำสถานีเค้าก็อยู่กับพิมถึงแค่ 3 ทุ่มกว่า ๆ เองค่ะ พอพ้น 3 ทุ่มเค้าก็เข้าไปที่บ้านพักแล้ว  ปล่อยให้พิมกับคุณสามีอยู่กัน 2 คน  มันน่ากลัวมากๆ เลย แถมไม่รู้ว่ารถไฟจะมาเมื่อไหร่  แต่ก็ทนรอต่อไปจนกระทั่งรถไฟมาอ่ะค่ะ  ครั้งนั้นแหละทำให้พิมเข็ดการเดินทางกับรถไฟไปเลย  แต่ก็ยังมีบ้าง  แต่ถ้าเลือกได้ก็ไม่ขึ้นค่ะ

แต่ว่าคุณสามีพิมน่ะเค้าไม่ค่อยซีเรียสเรื่องการเลทของรถไฟค่ะ เค้าว่ามันปกติ  แล้วเค้าก็ชอบขึ้นรถไฟมากเพราะว่าได้มีโอกาสชมนกชมไม้ข้างทางไปด้วย   แถมเค้าไม่ชอบการเดินทางด้วยรถทัวร์ค่ะ เพราะว่าครั้งนึงเคยนั่งรถทัวร์จากกรุงเทพฯ ไปสุราษฎร์ช่วงดึก  แล้วรถวิ่งเร็วมากประกอบกับฝนตกตลอดทาง  ทำให้รถเสียหลักหมุนคว้างกลางถนน เกือบพลิกคว่ำ  และเกือบชนกับสะพานลอยข้างทางในช่วงเวลาประมาณตี 2   เหตุการณ์ครั้งนั้นทำเอาพิมร้องไห้และคุณสามีก็ไม่ชอบการเดินทางด้วยรถทัวร์ไปเลยค่ะ

http://pim.in.th/images/pim-travel/hauhin/01.jpg

เพราะงั้นการเดินทางครั้งนี้ว่าจะไปกันยังไงดีก็เลยเป็นที่ถกเถียงกันเบา ๆ .... แต่สรุปแล้วพิมก็ตามใจคุณสามีค่ะด้วยการยอมนั่งรถไฟ >_<"   แล้วพอสรุปได้ พิมก็เลยจัดแจงเข้าเวบการรถไฟค่ะเพื่อเช็คดูว่ารถไฟเที่ยวที่จะไปหัวหินของวันนี้ตามเวลาที่เหลือเนี่ยมีกี่โมงบ้าง  ปรากฎว่าเร็วสุดก็คือบ่าย 3 กว่าๆ แล้วไปมีอีกทีตอนเกือบ 6 โมงเย็นเลย  ซึ่งตอนนั้นเนี่ยเมื่อดูนาฬิกาแล้วก็คิดว่าถ้านั่งแท๊กซี่ไปก็น่าจะทันเพราะมันเพิ่งบ่าย 2  เอง  พิมกับคุณสามีก็เลยรีบอาบน้ำแต่งตัวแล้วออกจากบ้านกันตอนบ่าย 2 กว่าๆ  ไปเรียกแท๊กซี่ที่ริมถนนหน้าหมู่บ้านเพื่อให้ไปหัวลำโพง  พอขึ้นรถได้ก็บอกคุณลุงคนขับแท๊กซี่ว่าไปหัวลำโพงค่ะ แต่ขอรีบหน่อยนึงเพราะกลัวตกรถไฟ  คุณลุงก็บอกว่าจะรีบให้ไม่มีปัญหาค่ะ  แต่ปรากฎว่าพอขึ้นทางด่วนไปได้สักแป๊บ  รถติดแบบไม่ขยับเลยค่ะ T___T  เศร้าใจมาก คุณลุงคนขับก็บอกว่า "หนู ลุงขอแนะนำนะว่ารถติดอย่างนี้ไปไม่ทันรถไฟขบวนที่ว่าแน่  หนูจะเปลี่ยนใจไหม"  แล้วหลังจากคุยกับคุณสามีแป๊บนึงก็ตัดสินใจว่า เอาก็เอา เปลี่ยนใจไม่ไปรถไฟแล้ว  ไปรถทัวร์ก็ได้  เลยบอกคุณลุงว่าไปหมอชิตโลดเลยค่ะ

http://pim.in.th/images/pim-travel/hauhin/02.jpg

ซึ่งตอนที่บอกคุณลุงว่าให้ไปหมอชิตเนี่ย พิมเข้าใจไปเองแบบเบลอ ๆ ค่ะว่าหมอชิตคือสายใต้ใหม่  พอไปถึงหมอชิตถึงได้นึกออกว่านี่มันคือหมอชิตนะไม่ใช่สายใต้ใหม่  T__T  มันก็เลยไม่มีรถไปหัวหินค่า  .... ตอนนั้นก็เลยแบบว่าเอ๋อมาก จะเอาไงดีอ่ะเนี่ย คุณสามีก็เลยตัดสินใจให้ค่ะว่างั้นนั่งแท๊กซี่ไปสายใต้ใหม่ล่ะกันไวดี  เพราะแม่กับครอบครัวเค้ารอนานมากแล้ว   แล้วคุณสามีก็เรียกแท๊กซีทันทีพร้อมเปิดประตูเข้าไปนั่งเลยค่ะ  ทิ้งให้พิมยืนเอ๋อ ๆ อยู่สักพักก่อนจะเข้าไปนั่งตามคุณสามี  >_<"

พอเข้าไปนั่งในรถได้สักแป๊บ ระหว่างทางก่อนจะถึงสายใต้ใหม่ แม่คุณสามีก็โทรมาค่ะถามว่าถึงไหนแล้ว  คุณสามีก็ตอบประมาณว่ายังนั่งแท๊กซี่อยู่ ยังไม่ได้ขึ้นรถทัวร์เลยคงอีกนานกว่าจะถึง...ทำนองนี้  แม่คุณสามีก็เลยบอกว่างั้นนั่งรถแท๊กซี่มาเลยเดี๋ยวแม่จัดการเรื่องค่ารถให้    แต่พิมก็ส่ายหน้าค่ะประมาณว่าไม่เอาหรอกมันท่าทางจะแพง  .... ซึ่งพอคุณคนขับแท๊กซี่เค้าได้ยินคุณสามีคุยกับแม่คุณสามีเค้าอย่างนั้น  เค้าก็คงจะฟังอ่ะค่ะ  แล้วพอคุณสามีวางหู พี่คนขับแท๊กซี่เค้าก็บอกว่าเหมาแท๊กซี่ผมไปหัวหินเลยไหมค่ะ  ผมคิด 1300 เท่านั้น  (นับจากหมอชิต)   ตอนแรกพิมก็คิดกันค่ะว่าจะเอาไงดี  เพราะว่าถ้านั่งรถทัวร์ไปเอง 2 สองรวมค่าแท๊กซี่จากหมอชิตมันก็ประมาณ 600 บาท ซึ่งถูกกว่าที่จะเหมาแท๊กซี่ไปตั้งครึ่งนึงเลยค่ะ   พิมก็เลยว่าจะไม่เหมาล่ะขึ้นรถทัวร์ตามเดิมดีกว่าเพราะงบไม่เยอะ  >_<'    แต่คุณสามีบอกว่าไม่อยากให้แม่รอ  เพราะแม่รอนานแล้ว  ก็เลยตัดสินใจว่าเอาก็เอาฟร่ะ  เหมาแท๊กซี่ไปหัวหินเลยก็ได้  ถือซะว่าอีก 700 เป็นค่าประหยัดเวลาไปอ่ะ ..... ว่าแล้วพิมก็บอกพี่คนขับไปเลยค่ะ ว่าลุยโลด

http://pim.in.th/images/pim-travel/hauhin/hauhin-002.JPG

ระหว่างทางที่นั่งรถแท๊กซี่ไป  พิมกับคุณสามีก็คุยกับพี่คนขับไปเรื่อย ๆ ค่ะ   แล้วก็แอบถามพี่คนขับนิดนึงว่าจะใช้เวลาประมาณเท่าไหร่ถึงจะไปถึงหัวหิน  พี่คนขับก็บอกว่าไม่เกิน 2 ชม. คืออย่างช้าถ้าไม่มีอะไรติดขัดก็จะไปถึงหัวหินก่อน 5 โมงเย็นอ่ะค่ะ  แต่ปรากฎว่าพอเข้าเขตเพชรบุรีจากท้องฟ้าที่โปร่ง ๆ ก็กลับเป็นท้องฟ้าที่มึดมัวและสักพักฝนก็ตกหนักจนมองแทบไม่เห็นทาง  ลมก็แรงมาก  พี่คนขับก็เลยไม่สามารถขับแบบทำเวลาได้  ต้องขับไปแบบอ่อยๆ ประมาณ 30 กม. ต่อ ชม. อ่ะค่ะ   (ต่างจากรถทัวร์คันที่แซงไป ทั้งที่ฝนตกหนัก แต่มันแซงขวาไปไม่เห็นท้ายรถเลยค่ะ)

http://pim.in.th/images/pim-travel/hauhin/hauhin-003.JPG

แต่แล้วสุดท้ายพอเราถึงชะอำ ฝนก็หยุดตก ^___^  พี่คนขับก็เลยเริ่มทำเวลาได้ต่อ    (แต่ก็แอบมาเจอรถติดเล็ก ๆ ในเมืองหัวหินนะคะ)

http://pim.in.th/images/pim-travel/hauhin/hauhin-004.JPGhttp://pim.in.th/images/pim-travel/hauhin/hauhin-004.JPG

จนสุดท้ายพิมกับคุณสามีก็มาถึงจุดนัดพบที่ Market Village หัวหินตอนประมาณ 6 โมงเย็นกว่าๆ อ่ะค่ะ

http://pim.in.th/images/pim-travel/hauhin/hauhin-005.JPG

พอมาถึงมาร์เกตวิลเลจ  เราสองคนก็รีบเดินขึ้นไปที่ชั้น 2 ของห้างทันทีค่ะ  เพราะว่าครอบครัวคุณสามีไปนั่งกินสุกี้รออยู่ที่ MK  นานจนจะอิ่มแล้ว ... ซึ่งพอขึ้นไปถึงก็แบบว่าดีใจมากเลยค่ะ  ได้เจอพ่อ ได้เจอแม่ ได้เจอน้องสาวคุณสามี  ดีใจจริง ๆ ค่ะ

http://pim.in.th/images/pim-travel/hauhin/hauhin-008.JPG

เราสองคนก็นั่งร่วมวงกิน MK กับครอบครัวคุณสามีสักพัก  หลังจากนั้นเมื่อทุกคนกินอิ่มเรียบร้อยแล้ว ก็จัดการเช็คบิลแล้วไปเดินซื้อของในมาร์เกตวิลเลจกันต่อค่ะ

http://pim.in.th/images/pim-travel/hauhin/hauhin-009.JPG

(ภาพนี้เก็บบรรยากาศในมาร์เกจวิลเลขมาให้ดู  ว่ามันสวยดีเน๊าะค่ะ ดูหวาน ๆ และโปร่งโล่งสบายดีอ่ะค่ะ)

http://pim.in.th/images/pim-travel/hauhin/hauhin-007.JPG

พอซื้อเสร็จ พ่อกับแม่คุณสามีก็ขอตัวกลับไปพักผ่อนที่โรงแรมกันก่อนเพราะว่าเหนื่อยมาทั้งวัน  ส่วนพิม คุณสามีและน้องสาวคุณสามี 2 คนก็ขอไปเดินเที่ยวกันต่อ  ซึ่งจุดหมายของเราทุกคนก็คือตลาดโต้รุ่งหัวหินค่ะ  (มาทั้งที่ไม่รู้ว่ามีอะไร >_<")    โดยเราเหมารถตุ๊กตุ๊กจากหน้ามาร์เกตวิลเลจมา 100 บาทค่ะ  แม้จะราคาแพง (เพราะเป็นเมืองท่องเที่ยว ??)  แต่ว่าเป็นรถตุ๊ก ๆ ที่นั่งสบายที่สุดในโลกเลยค่ะ   ทั้งเบาะกว้างใหญ่ นุ่ม ขนาดคุณสามีพิมว่าตัวใหญ่แล้วยังนั่งได้สบาย ๆ ถึง 4 คนเลยอ่ะค่ะ    แถมยังมีพัดลมมีที่กันฝนสาดให้ด้วย  แบบว่าเวิร์คมากๆ เลยค่ะ

แต่เคราะห์ซ้ำกรรมซัดอย่างแรง (แอบเว่อร์ จริง ๆ ไม่ได้ถึงขนาดน๊านนน)  พอไปถึงตลาดโต้รุ่ง ฝนก็ตกทันทีเลยค่ะ >_<"   ร้านรวงต่าง ๆ ในตลาดก็เลยปิดไปหลายร้าน คนก็เดินน้อยมาก  แต่เราก็ไม่หวั่นค่ะ  เดินต่อไปทั้งที่ไม่มีหมวกไม่มีร่มอย่างนั้นแหละค่ะ แต่อาศัยว่าถ้าฝนลงเม็ดหนัก ๆ ก็หลบเข้าไปพักพิงตามชายคาร้านแถวนั้น แต่พอฝนซาเม็ดลงก็ค่อยออกมาเดินต่อ  (ฮ่ะๆ)

http://pim.in.th/images/pim-travel/hauhin/hauhin-010.JPG

และด้วยความที่วันนี้พิมเหนื่อยทั้งกับงานและการเดินทาง  (นั่งแท๊กซี่มาจะเหนื่อยอะไรย่ะเนี่ย >_<")   ก็เลยอยากหาอะไรเย็น ๆ ดื่มสักหน่อยค่ะ  เหลือบไปเห็นร้านขายกาแฟโบราณอยู่ร้านนึงตรงแถวท้ายตลาดเกือบจะถึงทางรถไฟก็เลยอดใจไม่ได้ที่จะสั่งโอเลี้ยงมากินค่ะ   แต่สงสัยว่าคงเพราะฝนตกใส่หม้อโอเลี้ยงด้วยอ่ะมั้งค่ะ  โอเลี้ยงถึงได้จืดมากกกกกกจนเหมือนน้ำล้างหม้อโอเลี้ยง แถมไม่มีความหวานเลยแม้แต่น้อย จนนึกว่ากินกาแฟดำอยู่  แถมแก้วละ 30 บาทแน่ะ  แพงและเสียดายเงินมากกกกกกที่สุดเลยตั้งแต่กินโอเลี้ยงมาอ่ะค่ะ T__T

http://pim.in.th/images/pim-travel/hauhin/hauhin-015.JPG

จากโอเลี้ยงแก้วนั้น  เราก็เลยเดินเล่นในตลาดกันต่อ  (เดินย้อนไปย้อนมานั่นแหละค่ะ)  จนกระทั่งเดินไปเจอป้ายนี้ที่ร้านขายไอติมร้านนึงในตลาดอ่ะค่ะ

http://pim.in.th/images/pim-travel/hauhin/hauhin-017.JPG

เราทั้ง 4 คนก็เลยอดที่จะอุดหนุนไอติมร้านนี้ไม่ได้   ซึ่งขอบอกว่า....ราคาคุยตามป้ายนั้นไม่ผิดหวังเลยค่ะ  ไอติมกะทิร้านนี้อร่อยมากกกกกกกกกกกก  แถมเครื่องไอติมที่ใส่มาไม่ว่าจะเป็นมะม่วงแช่อิ่ม เม็ดบัว เผือกนั้นก็เข้ากับไอติมได้อย่างดีสุดยอด  ไม่เสียดายราคากับถ้วยละ 25 บาทเลยค่ะ    ^__^

http://pim.in.th/images/pim-travel/hauhin/hauhin-016.JPG

จากนั้นพอกินไอติมกันเสร็จ เราก็เดินลุยกันต่อค่ะ  ... เดินไปเดินมา อ้าววว เจอคนรู้จักของคุณสามีซะงั้นค่ะ

http://pim.in.th/images/pim-travel/hauhin/hauhin-011.JPG

เค้าบอกว่าจะออกมาหาราดหน้ากิน  แต่วันนี้ร้านราดหน้าปิดก็เลยยังไม่รู้จะกินอะไรดี .. แล้วก็ถามพิมกับคุณสามีและน้อง ๆ ว่าหิวไหม กินอะไรกันมาหรือยัง

http://pim.in.th/images/pim-travel/hauhin/hauhin-012.JPG

ซึ่งจริง ๆ จะว่าไปเนี่ย เมื่อกี้พวกเราก็เพิ่งกิน MK กันมาค่ะ - -"   แต่แบบว่าเป็นการกินไปเม้าท์ไป  เม้าท์มากกว่ากินซะอีก  ก็เลยไม่รู้สึกอิ่มแม้แต่น้อย   เลยบอกเพื่อนรุ่นพี่ของคุณสามีไปค่ะว่าหิว กำลังหาอะไรกินเหมือนกัน >_<

http://pim.in.th/images/pim-travel/hauhin/hauhin-013.JPG

เพื่อนคุณสามีก็เลยพาไปที่ร้านนี้ค่ะ ... ซึ่งตอนแรกที่พิมเห็นพี่เค้าพาไปร้านนี้เนี่ย พิมแอบคิดในใจว่าจะถูกตีหัวแบะด้วยราคาหรือเปล่าน๊า

http://pim.in.th/images/pim-travel/hauhin/hauhin-018.JPG

แบบว่าดูจากกุ้งมังกร ซึ่งตัวใหญ่พอ ๆ กับแขนคุณสามี >_<

http://pim.in.th/images/pim-travel/hauhin/hauhin-024.JPG

ดูจากหอย หมึก กุ้ง ดูจากสถานที่ ดูจากทำเลและอื่นๆ   ก็แอบคิดว่างานนี้กระเป๋าฉีกแน่นอน

http://pim.in.th/images/pim-travel/hauhin/hauhin-025.JPG

แต่เอาเข้าจริงเมื่อได้เข้าไปนั่งในร้าน  เมื่อได้ไปดูรายการอาหาร ดุราคาอาหารในเมนูของทางร้านแล้ว อยากบอกว่าราคามิตรภาพมาก ๆ เลยค่ะ  คือมันอาจจะไม่ได้ถูกเหมือนเราสั่งกินตามร้านข้าวต้มทั่วไป  แต่ว่ามันก็ไม่ได้แพงอะไรเลยค่ะ  (เมื่อเทียบกับว่าเป็นแหล่งท่องเที่ยว และเมื่อเทียบกับร้านอื่น)  แถมเพื่อนคุณสามีก็ยังการันตีว่า แม่ครัวร้านนี้เค้าทำอาหารอร่อยจริง ๆ ค่ะ

http://pim.in.th/images/pim-travel/hauhin/hauhin-023.JPG

และแล้วหลังจากที่เรานั่งรอกันเพียงไม่นาน อาหารที่เราสั่งไปทั้งหมด 5 อย่างก็ถูกเอามาเสริฟอย่างไวค่ะ    (ไวจนแอบคิดว่าเค้าทำไว้ก่อนป่าวฟร่ะเนี่ย แบบว่าไวมากๆ  เลยเมื่อเทียบกับจำนวนลูกค้าในร้านอ่ะค่ะ)   แถมด้วยความที่เพื่อนรุ่นพี่พิมอาจจะมากินบ่อยหรือยังไงไม่แน่ใจ    ทางร้านเค้าก็แถมไข่เจียวฟูๆ กรอบ ๆ มาให้จานนึงด้วยค่ะ

http://pim.in.th/images/pim-travel/hauhin/hauhin-019.jpg

ซึ่งขอบอกว่าทั้งอาหารที่เราสั่ง และไข่เจียวที่ทางร้านแถมมาให้ รสชาติใช้ได้ทุกอย่างเลยค่ะ   แต่ว่าอาหารทั้งหมดก็จะเป็นแบบรสกลาง ๆ นะคะ  สำหรับคนที่ชอบกินอาหารรสจัดอย่างพิมอาจจะบอกว่ารสอ่อนไปหน่อยก็เป็นได้ค่ะ

http://pim.in.th/images/pim-travel/hauhin/hauhin-020.JPG

แล้วหลังจากที่เรากินเสร็จเรียบร้อย ก่อนจะเช็คบิล พนักงานของที่ร้านเค้าก็ยกสับปะรดจานนี้มาให้ค่ะ  ก็ไม่รู้ว่าเค้าให้ทุกโต๊ะหรือเปล่า    แต่ขอบอกว่าสับปะรดอร่อยมากค่ะ  คือมันหวานอมเปรี้ยวเล็กน้อย  เนื้อไม่แข็งเกินไม่นิ่มเกิน พิมกินเดียวหมดจานเลย หุหุ

http://pim.in.th/images/pim-travel/hauhin/hauhin-021.JPG

พอกินสับปะรดเสร็จก็ทำการเช็คบิลค่าเสียหายค่ะ  เบ็ดเสร็จ 600 กว่าบาท  แต่ทางร้านลดให้เหลือแค่ 600 บาท  น่าจะเพราะมากับเพื่อนรุ่นพี่ของคุณสามี ซึ่งขายของอยู่แถวนั้นด้วย    พิมกับคุณสามีและน้อง ๆ ก็ต้องขอบคุณทางร้านด้วยอ่ะค่ะ  ^__^

http://pim.in.th/images/pim-travel/hauhin/hauhin-022.JPG

หลังจากนั้นเราทั้ง 5 คน ก็คิดว่าจะเอายังไงไปไหนกันต่อดี เพราะมันก็ยังไม่ดึกมาก  แต่ระหว่างคิด ๆ กันอยู่แม่คุณสามีโทรมาบอกว่าให้กลับกันได้แล้วเพราะมันเริ่มจะดึกมาก แม่เป็นห่วง  พวกเราก็เลยตัดสินใจว่างั้นกลับโรงแรมไปพักผ่อนดีกว่าค่ะ  เพราะไม่อยากให้แม่คุณสามีเป็นห่วง  อีกทั้งเดินตากฝนมาเป็นชั่วโมงแล้ว หากพักผ่อนน้อยก็เกรงจะเป็นหวัดเอาไว้   ดังนั้นแล้วพวกเราจึงบ๊ายบายกับเพื่อนคุณสามีที่เดินมาส่งที่หน้าโรงแรมที่เราพักกัน  ก่อนที่จะแยกย้ายกับครอบครัวคุณสามีไปนอนกันที่ห้องใครห้องมัน  เพื่อที่พรุ่งนี้ (วันที่ 2 ของทริปหัวหิน) เราจะได้ลุยกันต่อค่ะ

ส่วนว่าวันพรุ่งนี้จะเป็นยังไง พิมไปที่ไหนมา กินอะไรมาบ้าง  เดี๋ยวคอยดูในตอนถัดไปนะคะ ^__^



ครัวบ้านพิม on Facebook

สมาชิก