หลายวันก่อน พิมไปซื้อของที่แมคโครสาขาแถวบ้าน เจอวิปปิ้งครีมยี่ห้อโปรดลดราคาเยอะมาก  เห็นแล้วก็อดใจไม่ได้ ก็เลยจัดมาซะ 2 กล่องค่ะ 

กล่องแรก พิมเอาไปทำสปาเกตตี้ไวท์ซอสกับผักโขมอบชีส ตุนไว้ให้คุณสามีกินในวันที่พิมขี้เกียจทำกับข้าวนะคะ ^_^  (หลายคนอาจจะสงสัยว่ามีวันที่พิมขี้เกียจทำกับข้าวด้วยเร๊อะ ขอตอบว่ามีค่ะ บ่อยเลย 555)   ส่วนอีกกล่อง ตอนแรกพิมก็นึกไม่ออกว่าจะเอามาทำอะไรดี เลยลองไปรื้อ ๆ ในตู้ฟรีสดู  เห็นมีสตรอเบอรี่แช่แข็งอยู่ 2 ถุง ซึ่งน่าจะแช่มาเกินปีแล้ว >__< เลยจัดมาเป็น Strawberry Panna Cotta  หนึ่งในขนมฝรั่งสุดโปรดของพิมซะเลยค่ะ 

ไม่พูดเยอะ ไปดูส่วนผสมและวิธีทำกันเลยเน๊าะคะ ^_^

ปล. สาเหตุที่ชื่อเมนูมี V.2 อยู่ด้วย เพราะพิมเคยทำเมนูนี้ลงในเวบครัวบ้านพิมไว้แล้ว แต่ก็นานหลายปีมากค่ะ  ครั้นจะลบโพสต์นั้นออก แล้วเอาโพสต์นี้ใส่ไปแทน   ก็สงสารโพสต์เก่าอยู่  5555  เลยทำเป็นโพสต์ใหม่แล้วใส่ V.2 แทนนะคะ ^_^

::  ส่วนผสม "ชั้นล่างสุด/สีชมพูอ่อน"  ::

สตรอเบอรี่แช่แข็ง ที่ละลายน้ำแข็งแล้ว 3/4 ถ้วย
วิปปิ้งครีม 1/4 ถ้วย
นมสดรสจืด 1/4 ถ้วย
น้ำตาลทรายขาว 3 ช้อนโต๊ะ 
เจลาตินแผ่นสั้น  1 + 1/2 แผ่น 

::  ส่วนผสม "ชั้นกลาง/สีขาว" ::

นมสดรสจืด 1 ถ้วย
วิปปิ้งครีม 1 ถ้วย
น้ำตาลทรายขาว 1/3 ถ้วย
เจลาตินแผ่นสั้น 3 แผ่น

::  ส่วนผสม "ชั้นบนสุด/สีแดง" ::

สตรอเบอรี่แช่แข็ง ที่ละลายน้ำแข็งแล้ว 1  ถ้วย
น้ำตาลทรายขาว 3 ช้อนโต๊ะ 

** สูตรนี้ทำได้ 6 - 7 ถ้วยขนาดตามในภาพ

** วันนี้พิมทำ 3 เท่าของสูตร ใช้ส่วนผสมทั้งหมด X 3  ได้ขนม 19 ถ้วย เพราะงั้นส่วนผสมตามในภาพก็จะดูเยอะๆ หน่อยนะคะ

::  วิธีทำ ::

ก่อนจะไปลงมือทำ พิมอยากจะเล่าให้ฟังนิดนึงว่า strawberry Panna Cotta  ที่พิมทำในวันนี้ ตัวขนมจะมี 3 ชั้นนะคะ   ชั้นล่างสุดที่อยู่ก้นแก้วเป็นสีชมพูอ่อน ๆ มีส่วนผสมของสตรอเบอรี่กับวิปปิ้งครีมเป็นหลักค่ะ   ชั้นกลางเป็นวิปปิ้งครีมกับนมนะคะ ส่วนชั้นบนสุดจะเป็นตัวซอสสตรอเบอรี่ ที่มีส่วนผสมของสตรอเบอรี่กับน้ำตาลค่ะ 

ถ้าถามพิมว่า .. เราจำเป็นต้องทำครบทั้ง 3 ชั้นไหม  ตอบเลยว่าไม่ค่ะ    จริง ๆ เราทำแค่ 2 ชั้นคือชั้นสีขาวกับชั้นที่เป็นซอสสตรอเบอรี่ก็พอ  เพราะแค่ 2 ชั้นนี้ก็อร่อยแล้วนะคะ   แต่ว่าพิมอยากให้ตัวขนมมันมีลูกเล่น สีสันที่สวยงาม  รวมถึงรสชาติที่ซับซ้อนมากขึ้น ก็เลยทำเป็น 3 ชั้นค่ะ  ซึ่งใครจะทำตามพิมทั้ง 3 ชั้น หรือจะลดลงทำแค่ 2 ชั้นก็ได้ เอาตามที่ชอบเลยนะคะ   

อันดับแรกมาดูกันที่สตรอเบอรี่ที่พิมใช้กันก่อน  ตามสูตรนี้เพื่อความสะดวกและประหยัด พิมใช้เป็นสตรอเบอรี่แช่แข็งค่ะ  มีขายเป็นถุง ๆ ละ 500 กรัมบ้าง 1000 กรัมบ้าง ตามซุปเปอร์มาร์เกตทั่วไปนะคะ     ก่อนใช้ให้เราเอาถุงสตรอเบอรี่มาวางในอุณหภูมิห้อง จนน้ำแข็งละลายหมด ค่อยนำมาใช้งานค่ะ

มาเริ่มกันที่ขนมชั้นแรกหรือชั้นล่างสุดก่อนนะคะ ^_^ 

ให้เราหยิบชามมาใบนึง  เทน้ำเย็นใส่ลงไป  จะใส่น้ำแข็งหรือไม่ใส่ก็ได้ ขอให้เป็นน้ำเย็นจัด  แล้วเอาแผ่นเจลาตินลงไปแช่ในน้ำทีละแผ่น จนครบตามจำนวนที่บอกไว้ในสูตรค่ะ   (แช่ประมาณ 10-15 นาที) 

*** เจลาตินแผ่น ซื้อได้ตามซุปเปอร์มาร์เกต / ร้านขายอุปกรณ์เบเกอรี่ / แมคโคร / Shopee/ Lazada / ฯลฯ  1 ซองตามในภาพมี 12 แผ่น ราคาซองละประมาณ 65-70 บาท (ปี 2564) 

*** ขั้นตอนนี้เรียกว่าการบลูมเจลาติน เป็นการทำให้แผ่นเจลาตินนุ่มนิ่มก่อนจะเอาไปประกอบอาหาร/ขนมนะคะ 

ระหว่างนั้น ...ให้เราหยิบโถปั่นน้ำผลไม้ออกมาค่ะ (หรือเครื่องปั่นอะไรก็ได้ ที่สามารถปั่นสตรอเบอรี่ได้)    ใส่สตรอเบอรี่ทั้งหมดลงไป   แล้วเอาไปปั่นให้ละเอียดนะคะ

กรองสตรอฯ ด้วยกระชอนตาถี่ ๆ  เพื่อให้ได้เนื้อสตรอเบอรี่ที่เนียน ๆ ระหว่างกรองก็ใช้ไม้พายคน ๆ ในกระชอนด้วย จะได้ไว ๆ ค่ะ ^_^

 เมื่อได้เนื้อสตรอเบอรี่แบบเนียน ๆ แล้ว ให้เราเททั้งหมดใส่ลงในหม้อ ตามด้วยนมสด วิปปิ้งครีม  น้ำตาล แล้วคนทุกอย่างให้เข้ากันนะคะ 

ยกหม้อขึ้นตั้งไฟ  ใช้ไฟกลางค่อนมาทางอ่อน  คนด้วยพายหรือตะกร้อมือไปเรื่อย ๆ จนส่วนผสมเดือดเบา ๆ  และน้ำตาลละลายหมด ก็ยกลงจากเตาได้เลยค่ะ 

หยิบแผ่นเจลาตินนุ่มนิ่มขึ้นมาจากน้ำ  (แช่ประมาณ 10-15 นาที)  บีบน้ำออกให้หมด   แล้วใส่ลงไปในหม้อนะคะ   ใช้ตะกร้อมือคนด้วยความรวดเร็ว  พอเจลาตินละลายหมด ก็วางตะกร้อมือได้เลยค่ะ 

จากนั้นพักให้ส่วนผสมของเราเย็นลงนิ๊ดดนึงง  ก็ค่อยเทส่วนผสมใส่ลงในพิมพ์ที่เตรียมไว้นะคะ    จะเป็นถ้วยกระเบื้อง ชามใหญ่  ถ้วยแก้ว  ถ้วยพลาสติคคือได้หมด เอาตามที่มีหรือสะดวกเลยค่ะ    แต่ถ้าสมมติว่าใช้ถ้วยแบบพิมตามในภาพด้านล่าง  แล้วใส่ถ้วยละ 30 มิลลิลิตร  ส่วนผสม 1 สูตรก็จะได้ประมาณ 6-7 ถ้วยนะคะ 

ถึงตรงนี้ ... ก็เอาขนมของเราไปแช่ตู้เย็นเพื่อให้เซตตัวประมาณ 2 ชั่วโมง ก่อนที่จะทำในชั้นต่อไปค่ะ ^_^ 

มาถึงชั้นที่ 2 หรือชั้นกลาง  .... ให้เราเริ่มต้นด้วยการแช่เจลาตินแบบในชั้นแรกนะคะ  

จากนั้นให้เราหยิบหม้อมาใบนึง ใส่วิปปิ้งครีม นมจืด และน้ำตาลลงไป  คนให้เข้ากัน แล้วเอาหม้อไปตั้งไฟค่ะ   พอน้ำตาลละลายหมดแล้ว และส่วนผสมรอบ ๆ หม้อด้านในเดือดเบา ๆ  ก็ยกลงจากเตาได้เลยนะคะ 

ใส่เจลาตินที่นุ่มนิ่มแล้วลงไป คนให้เข้ากันจนเจลาตินละลายหมด ก็ใช้ได้ค่ะ

พักส่วนผสมให้อุ่น ๆ นิดนึง  ค่อยเทใส่ลงไปในถ้วยขนม #ที่ชั้นแรกเซตตัวแล้ว นะคะ ^_^  จากนั้นก็เอาเข้าไปแช่ในตู้เย็นประมาณ 6 ชั่วโมง หรือจนขนมชั้นกลางเซ็ตตัวก่อนเสิร์ฟค่ะ 

มาถึงชั้นสุดท้าย ก็คือชั้นที่เป็นซอสสตรอเบอรี่ ที่เราเอาไว้ราดบนหน้าขนมก่อนเสิร์ฟนะคะ  ^_^ 

ชั้นนี้ไม่มีอะไรยุ่งยากเลยค่ะ  เริ่มจากหยิบโถปั่นน้ำผลไม้ออกมา ใส่สตรอเบอรี่ทั้งหมดลงไป  แล้วเอาไปปั่นค่ะ  จะปั่นให้ละเอียด หรือปั่นหยาบ ๆ  ก็ตามแต่ว่าต้องการซอสสตรอเบอรี่ให้มีลักษณะแบบไหนนะคะ 

พอปั่นเสร็จ ก็เทส่วนผสมทั้งหมดใส่ลงในหม้อ (ไม่ต้องกรองนะคะ)  แล้วใส่น้ำตาลลงไป  คน ๆ ให้เข้ากัน  จากนั้นก็ยกหม้อไปตั้งเตาไฟ โดยใช้ไฟกลางค่อนไปทางอ่อนก็พอค่ะ  พอน้ำตาลละลายก็ตักซอสขึ้นมาชิมรสนิดนึงว่าได้รสเปรี้ยวหวานตามที่ชอบไหมนะคะ  เพราะบางทีสตรอแช่แข็งบางยี่ห้อบางล๊อตก็เปรี้ยวมากกกกก  จนเราต้องเติมน้ำตาลเพิ่ม   แต่ก็อย่าเติมมากไป  เพราะตัวขนมมันหวานอยู่แล้วค่ะ     

พอได้รสที่ชอบ และส่วนผสมเดือดทั่วกันแล้วก็ปิดไฟเตา  พักซอสให้เย็นสนิท ก่อนจะเก็บใส่กล่องแช่ตู้เย็นไว้ รอเสิร์ฟพร้อมกับตัวขนมนะคะ ^_^

โอเคค่ะ เมื่อขนมทั้งสองชั้นของเราเซตตัวดีแล้ว และถึงเวลาเสิร์ฟแล้ว  ก็ให้เราหยิบถ้วยขนมออกมานะคะ  

แล้วก็ตักซอสสตรอเบอรี่ใส่ลงไปประมาณ 2 ช้อนโต๊ะ  (สำหรับถ้วยขนาดนี้) แต่งหน้าด้วยสตรอเบอรี่สดผ่าครึ่งนิดหน่อย หรือจะไม่แต่งก็ได้    ^_^ 

แล้วเราก็จะได้ "Strawberry Panna Cotta" ออกมาหน้าตาน่ากินแบบนี้เลยค่ะ  เป็นขนมที่พิมว่าทั้งอร่อยและหน้าตาดีจนอยากจะให้ทุกคนเอาไปลองทำกันดูนะคะ   ^_^ 

ทีนี้หลายคนอาจจะสงสัยอีกว่า  ถ้าไม่อยากกินสตรอเบอรี่ จะใช้ผลไม้ตัวอื่นได้ไหม  พิมก็ขอตอบว่าได้ค่ะ  เช่น  ถ้าเพื่อนๆ มีบลูเบอรี่อยู่ก็อาจจะทำเป็นบลูเบอรี่พันนาคอตต้านะคะ  ถ้ามีเสาวรสอยู่ก็อาจจะทำเป็นเสาวรสพันนาคอตต้าได้ค่ะ  หรือถ้ามีมะม่วงอยู่ ก็อาจจะทำเป็นมะม่วงพันนาคอตต้านะคะ   แต่ว่าอาจจะต้องปรับเรื่องปริมาณน้ำตาลนิดหน่อย ให้เหมาะสมกับรสชาติของผลไม้แต่ละชนิดด้วยค่ะ 

ส่วนเทคนิคในการทำ ไม่มีอะไรมากมายเลย แค่ทำตามวิธีที่พิมบอกก็ออกมาแล้วอร่อยแล้วนะคะ  สำคัญเรื่องวัตถุดิบ วิปปิ้งครีมให้เลือกแบบที่เป็น Diary Whipping Cream   ไม่เอาแบบ Non-Diary นะคะ  ส่วนนมสดจืดให้เลือกแบบนมร้อยเปอร์เซ็นต์ ไม่เอาแบบไขมัน 0% หรือว่าไขมันต่ำค่ะ   เพราะพิมเคยลองแล้ว  รสชาติที่ได้จะไม่หวานมันไม่เข้มข้น กินแล้วไม่อร่อยแบบเต็มที่นะคะ 

*** Dairy whipping cream หรือวิปปิ้งครีมแท้  เป็นวิปปิ้งครีมที่ทำมาจากนมวัวค่ะ  เนื้อครีมจะออกสีเหลืองอ่อน ๆ ไม่มีรสหวานเพราะไม่มีการเติมน้ำตาล และมีกลิ่นรสหอมมันนมตามธรรมชาติของนมนะคะ   

*** Non-dairy whipping cream หรือวิปปิ้งครีมเทียม  เป็นวิปปิ้งครีมที่ทำมาจากน้ำมันพืชค่ะ   โดยในกระบวนการผลิตเค้าจะเติมไฮโดรเจนลงในน้ำมันพืชเพื่อเปลี่ยนคุณสมบัติของไขมันพืช ให้ออกมาคล้ายไขมันเนยที่สามารถตีให้ขึ้นฟูได้นะคะ   ซึ่งก็จะมีทั้งแบบที่เป็นไขมันพืชทั้งหมด และแบบผสมไขมันเนยจากนมวัว+ไขมันพืชอย่างละครึ่งนะคะ  วิปปิ้งครีมชนิดนี้จะมีเนื้อครีมเป็นสีขาว  มีการเติมน้ำตาล  เติมนมสดหรือนมผงลงไปเพื่อแต่งรสชาติให้เหมือนกับเป็นวิปปิ้งครีมแท้  และเพื่อให้ตีแล้วขึ้นฟูง่ายนะคะ   รสชาติ ความหอมมัน ความอร่อย จะสู้วิปปิ้งครีมแท้ไม่ได้  แต่มีอายุการเก็บที่นานกว่า และราคาถูกกว่าค่ะ  ^_^

ส่วนเรื่องเจลาติน หลายคนอาจจะสงสัยว่าใช้เจลาตินผงแทนเจลาตินแผ่นได้ไหม จริง ๆ ก็ได้นะคะ  แต่ว่าพิมถนัดใช้เจลาตินแผ่นมากกว่า   ถ้าเพื่อน ๆ อยากจะใช้เจลาตินผง ก็ใช้ในปริมาณน้ำหนักเท่ากับเจลาตินแผ่น  ซึ่งเจลาตินแผ่นสั้น 1 แผ่น น้ำหนักจะอยู่ที่ 1.5 - 1.7 กรัมค่ะ

ยังไงก็ลองไปทำดูน๊า ติดขัดตรงไหนก็มาถามพิมได้เลย    แล้วพิมจะเข้ามาตอบให้เรื่อย  ๆ  นะคะ 

ส่วนวันนี้ .. ขอตัวไปกินก่อน แล้วเจอกันในเมนูถัดัไป สวัสดีค่า ^_^