header


        เมนูล่าสุด




        เมนูแนะนำประจำสัปดาห์




        พาชิมล่าสุด



พาชิมทั้งหมด >>>  


        พาเที่ยวล่าสุด



พาเที่ยวทั้งหมด >>>  


 

-- ทักทายกันนิ๊ดดดดนึงเน๊าะคะ --

สวัสดีค่ะ... เพื่อน ๆ พี่ ๆ น้อง ๆ ที่เข้ามาชมเวบครัวบ้านพิมทุกคนเลยนะคะ ^_^  
ก่อนอื่นอยากบอกว่า พิมดีใจมากเลยค่ะที่ได้ทำเวบครัวบ้านพิม ซึ่งเป็นเวบรวบรวมสูตรอาหารของพิม และพาชิมพาเที่ยวในสไตล์พิม .. ขึ้นมา
(ขอบคุณคุณสามีที่เป็นผู้อยู่เบื้องหลังจ้า) 

เวบครัวบ้านพิม ไม่ใช่เวบรวมสูตรอาหารที่ดีที่สุด  ไม่ใช่เวบที่รวมข้อมูลท่องเที่ยวในเมืองไทยที่มากที่สุด
แต่ทุกสูตรอาหาร ทุกร้านอาหาร ทุกสถานที่ท่องเที่ยวที่พิมได้รีวิวไว้ในเวบครัวบ้านพิมนี่
ได้มาจากประสบการณ์ที่พิมได้ลงมือทำเอง  ได้ไปเจอเองทั้งหมดนะคะ
อร่อยยังไง ไม่อร่อยยังไง  ความรู้สึกที่ได้เจอมาเป็นแบบไหน พิมก็จะถ่ายทอดให้เพื่อน ๆ ได้ฟังกันทั้งหมดค่ะ 
เพราะงั้นแล้ว เพื่อนๆ ที่มาหาสูตรอาหาร มาหาวิธีการทำอาหาร  มาหาข้อมูลท่องเที่ยว หรืออื่นๆ 
ก็จะได้รับข้อมูลจากประสบการณ์ตรงของพิมเลยนะคะ ^_^ 

แต่ก่อนอื่น .. เพื่อให้เข้าใจตรงกันนิ๊ดดดดนึง พิมอยากให้เพื่อน ๆ อ่านข้อความข้างล่างกันสักหน่อยอ่ะค่ะ 

เรื่องแรก .... อาหารอย่างเดียวกัน  แต่ต่างพื้นที่ วิธีทำอาจจะไม่เหมือนกันนะคะ 
เรื่องสอง .... 
 อาหารชื่อเดียวกัน  แต่อยู่คนละจังหวัด ก็อาจจะเป็นอาหารคนละชนิดกันได้ค่ะ
เรื่องสาม .... 
 การทำอาหารนั้นไม่มีคำว่าตายตัว และการปรุงอาหารนั้นขึ้นกับความชอบ+สไตล์ของแต่ละคน
เพราะนั้นแล้วหากสูตรอื่นใส่อย่างนั้น แต่พิมไม่ใส่   ไม่ได้แปลว่าจะมีคนผิดหรือคนถูก
ขออย่าให้ถึงกับเปลี่ยนสูตร เปลี่ยนแนวการทำแบบสุดๆ  เลยก็พอนะคะ  
และเรื่องสุดท้าย .... 
 หากค้นหาสูตรไหนไม่เจอ ลองใช้ช่อง search ที่อยู่ฝั่งขวาด้านบนดูก่อนน๊า 
เพราะถ้าถามพิมไว้ในเวบ  แล้วช่วงไหนที่พิมยุ่งมากๆ  อาจจะมาตอบช้าก็ได้จ้า

ขอบคุณทุกคนที่เข้ามาชมเวบครัวบ้านพิมนะคะ  ยังไงติดตามกันไปนาน ๆ น๊า  
แล้วพิมจะเอาสูตรอาหารอร่อย ๆ ร้านอาหารที่น่าสนใจ สถานที่ท่องเที่ยวดี ๆ   มาฝากกันเรื่อย ๆ จ้า

ทำไมหั่นหัวหอมแล้วน้ำตาไหล T___T

เพื่อน ๆ เคยสงสัยไหมค่ะว่าทำไมเวลาที่เราหันหัวหอมแล้วน้ำตาเรามักจะไหล หรือไม่ก็แสบตาอยู่เสมอ .... นั่นเป็นเพราะว่าในหัวหอมจะมีสารตัวนึงที่ชื่อว่า  Syn-propanethial-S-oxide (C3H6OS) ค่ะ ซึ่งเจ้าสารนี้เนี่ย เวลาอยูในหัวหอมเฉย ๆ ก็จะไม่มีอะไรค่ะ   ประมาณว่าต่อให้เอาหัวหอมทั้งหัวมาตั้งใกล้เราขนาดไหน  เจ้าสารนี้ก็ไม่ส่งผลอะไร ยังไงเราก็ไม่แสบตาค่ะ ......  แต่ถ้าเมื่อไหร่เซลล์ของหัวหอมถูกทำให้แตก (ด้วยการหั่น หรือสับ หรือบด)  เจ้าสารนี้ก็จะค่อย ๆ ระเหยเป็นไอออกมา  ทำให้คนหั่นและคนรอบข้างระคายเคืองตา แสบตา และก็น้ำตาไหลได้ค่ะ

แต่ส่วนใหญ่แล้วเนี่ย.......  ไอ้เจ้าสารในหัวหอมจะส่งผลต่อเราชาวบ้านๆ เท่านั้นนะคะ  แต่กับพ่อครัวแม่ครัวที่มีทักษะการใช้มีดเก่ง ๆ เวลาเค้าหั่นหัวหอม เค้าจะไม่แสบตาหรือว่าน้ำตาไหลเลยค่ะ   เพราะเหตุว่าเค้าใช้มีดที่คมกริบและการหั่นที่รวดเร็วมาก  ทำให้เจ้าเซลล์ของหัวหอมเกิดความรู้สึกช้า (ว่าตัวเองถูกหั่นไปแล้วนะ)  สารนั่นก็เลยยังไม่ทันได้ระเหย  หรือระเหยออกมาน้อย หรือว่าค่อนข้างช้าน่ะค่ะ



วันนี้เพื่อน ๆ กินข้าวเช้าแล้วหรือยังค่ะ

http://www.pim.in.th/images/others_img/1Pic/pim-breakfast.JPG

เมื่อก่อนโน้น ......เพื่อนพิมคนนึงที่เป็นหมอ  เค้ามักจะถามพิมอยู่เสมอ ๆ เวลาโทรคุยกันว่า วันนี้พิมกินข้าวเช้าแล้วหรือยัง ... ถามครั้งแรก ๆ พิมก็เฉยๆ ค่ะ ไม่ได้คิดอะไร นึกว่าเพื่อนถามตามมารยาท (ฮ่ะๆ)

แต่พอถามบ่อยเข้า พิมก็เลยชักจะสงสัยค่ะ ก็เลยถามเพื่อนว่าทำไมล่ะ ทำไม..ข้าวเช้ามันสำคัญอะไรมากมายขนาดที่เพื่อนต้องถามพิมอยู่บ่อย ๆ ว่ากินข้าวเช้าแล้วหรือยัง

แล้วเพื่อนพิมก็เฉลยให้ฟังค่ะว่า  ........ ที่ถามเนี่ย เพราะเป็นห่วง เนื่องจากพิมมีนิสัยไม่ค่อยกินข้าวเช้า (คือทำงานเพลินจนลืมกิน) ......  เพื่อนพิมบอกว่าข้าวเช้าถือเป็นข้าวมื้อสำคัญที่ของสุดแต่ละวันเลยนะ  และให้กินมากได้เท่าที่ร่างกายอยากจะกิน (เพราะยังไงร่างกายก็ดึงเอาพลังงานจากอาหารเช้ามาใช้ได้หมด ไม่เหมือนอาหารเย็น)   แถมถ้ากินให้ได้แบบหลากหลายยิ่งดี   (ประมาณว่าไม่ใช่แซนด์วิช - ข้าวเหนียวหมูย่าง หรือกาแฟเหมือนๆ กันทุกวัน)

เพื่อนพิมยังบอกอีกว่า  ..... เวลาที่คนเราไม่กินข้าวเช้า จะทำให้ร่างกายไม่มีพลังงานจากอาหารเช้าไปใช้  ดังนั้นร่างกายเลยจะไปดึงเอาสารอาหารจากอวัยวะส่วนอื่นมาใช้แทน  (แต่ไม่ได้ดึงไขมันน้ออ แบบว่าไขมันยังอยู่ครบค่ะ)  ..... ซึ่งการที่ร่างกายทำแบบนี้ จะก่อให้เกิดกรดชนิดนึงออกมาด้วย  ซึ่งจะส่งผลทำให้เรารู้สึกอ่อนเพลีย  ร่างกายเหมือนล้า ๆ และสมองไม่ค่อยแล่น  และก็ส่งผลเสียอีกหลาย ๆ อย่างต่อร่างกายของเรา  ซึ่งเจ้าผลเสียเหล่านี้เนี่ยจะปรากฎเห็นชัดแจ้งก๋เมื่อเรามีอายุมากขึ้นอ่ะค่ะ  (ประมาณว่าตอนนี้ยังไม่เห็นชัด)



กินปลามากแค่ไหนถึงจะเรียกว่าดี ?

http://www.pim.in.th/images/others_img/fish2.JPG

พิมเชื่อว่าเพื่อนๆ หลายคนคงจะทราบดีว่า "ปลา" เป็นเนื้อสัตว์ที่ดีต่อสุขภาพร่างกายของเรามากที่สุด  บางคนบอกว่ายิ่งกินปลาเยอะ สมองจะยิ่งดี ... แต่เพื่อนๆ เคยสงสัยไหมว่า ไอ้ที่ว่าให้กินเยอะเนี่ย มันจะต้องกินขนาดไหน .. วันนี้พิมมีคำตอบมาฝากกันค่ะ

"เนื้อปลา" เป็นเนื้อสัตว์ที่ดีต่อสุขภาพของคนเราจริง ๆ ค่ะ เพราะว่าเนื้อปลานั้นมีไขมันน้อยเมื่อเทียบกับเนื้อสัตว์ชนิดอื่น แถมยังมีแร่ธาตุสำคัญที่เป็นประโยชน์ต่อร่างกายมากมาย แล้วก็ยังย่อยง่ายอีกด้วยนะคะ ... จึงทำให้ปลาเป็นเนื้อสัตว์ที่เหมาะกับผู้ป่วย เหมาะกับผู้สูงอาุยุ และเหมาะกับคนทุกวัย ทุกเพศเลยค่ะ

ในเมื่อเนื้อปลาเป็นเนื้อสัตว์ที่ดีต่อสุขภาพของเรามากมายขนาดนี้แล้ว จึงมีคำถามเกิดขึ้นว่า แล้วกินเท่าไหร่ถึงจะเพียงพอหรือดีต่อสุขภาพของเราจริง ๆ

ในหนังสือเล่มนึงที่เกี่ยวกับโภชนาการ..ที่พิมได้เคยอ่าน    เค้าบอกเอาไว้ว่า  ในอาหาร 3 มื้อของคนเราแต่ละวัน ควรจะมีหนึ่งมื้อที่มีอาหารที่ทำจากปลาเป็นหลักค่ะ  จะเป็นทอด นึ่ง ต้ม ตุ๋น ย่าง ผัด ... อะไรก็ได้ ...... ขอให้เป็นปลา  (แต่ว่าเป็นนึ่ง ต้ม จะดีกว่าอย่างอื่นนะคะ) ... และก็ควรจะกินแบบสับเปลี่ยนหมุนเวียนชนิดปลาไปเรื่อย ไม่กินซ้ำชนิดกันบ่อ ๆ  เช่น วันนี้กินปลาช่อน พรุ่งนี้กินแซลมอน มะรืนเป็นปลาทู  อีกวันเป็นปลานิลเผา อีกวันเป็นปลาหมอย่าง  ... ทำนองนี้ ...... ซึ่งแค่เพียงเท่าที่ก็จะเพียงพอต่อความต้องการของร่างกายเราแล้วค่ะ



หั่นพริกแล้วแสบมือ ทำยังไงดี ?

หั่นพริก เด็ดพริกแล้วแสบมือ ปวดแสบปวดร้อนมือ .... จะทำยังไงดี....... วันนี้พิมมีคำแนะนำมาฝากค่ะ

วิธีที่ 1 แช่มือในน้ำเกลือที่เค็มจัดๆ ประมาณ 2-3 นาที จะรู้สึกดีขึ้น

วิธีที่ 2 ใช้เกลือป่นถูมือสักพัก อาการปวดแสบปวดร้อนจะค่อย ๆ หายไป

วิธีที่ 3 ทาถูมือด้วยน้ำมันพืช (ที่ัยังไม่ได้ใช้) สักพักจะรู้สึกดีขึ้น ก็ค่อยล้างมือ

วิธีที่ 4 แช่มือในน้ำซาวข้าวเหนียว  สักพักอาการแสบร้อน จะค่อยๆ หายไป

ซึ่งวิธีทั้งหมดที่พิมบอกมานี่ พิมลองแล้วค่ะ ใช้ได้ผล  แต่จะมากน้อยขนาดไหน  ทำแล้วหายไวแค่ไหน ก็ขึ้นอยู่กับชนิดพันธุ์ของพริกและปริมาณด้วยนะคะ



ครัวบ้านพิม on Facebook

สมาชิก